ภาคที่ 1 ปฐมบท - แสงแรกของเรื่องราว
แสงไฟจากเพดาน ข้างนอก ส่องมาที่นาฬิกาโบราณเรือนหนึ่ง ที่ถูกแขวนไว้ในห้องนอน บอกเวลา 05.00 น.
เสียงขลุกขลัก ลากถู ข้าวของ ดังมาจากในครัว. สร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญ ให้แก่เด็กสาวรุ่นผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับคุดคู้อยู่ในมุ้ง. เธอนอนกระสับกระส่าย เมื่อได้ยินเสียงเรียก.
เสียงของหญิงวัยกลางคน เรียกให้เด็กสาวรุ่น ที่กำลังนอนอยู่รีบตื่นขึ้น.
แวว ลุกขึ้น ขยี้ตา งัวเงีย, แหวกมุ้งออกมาทั้งๆ ที่ตายังหลับอยู่ ท่ามกลางแสงสลัวๆ. ส่วนมือก็ปัดป่ายไปมาบนหัวเตียง จนไปสะดุดเข้ากับ สวิทช์ไฟฟ้าเข้าพอดี.
ภายในห้องแคบๆ ที่ถูกจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ อย่างไม่เป็นระเบียบเท่าไรนัก. แวว ขยี้ตาอยู่ครู่หนึ่ง, ผู้เป็นแม่ ก็เดินมาเกาะที่ขอบประตูห้อง. เข้ามาดูว่า ลูกสาวตื่นหรือยัง. ผู้เป็นแม่เตรียมข้าวของ ที่จะนำไปขายในตลาดเช้าพร้อมแล้ว เพียงแต่รอลูกสาวอยู่.
รุ่งอรุณวันใหม่ บรรยากาศดูสดใสกว่าทุกวัน, แสงอรุณสีทองยามเช้า. บรรยากาศในตลาดวันนี้ ดูสวยงาม. สองฝั่งทางเดิน ต่างมีแม่ค้านำของมาขาย จัดวางโต๊ะ วางข้าวของที่จะขายคละกัน แต่ดูมีระเบียบ ราวกับว่ารอคนสำคัญมาตรวจ. ตลาดปลาสด เนื้อสด กับตลาดผัก ของกินของใช้ แยกกัน. มีผู้คนพลุกพล่าน มากกว่าทุกวัน. แสงสีทองยามเช้า สาดกระทบไหล่ผู้ค้น ที่เดินสวนกันไปมา, ดูงามตายิ่งนัก. ทุกคนส่งรอยยิ้มให้แก่กัน และกล่าวทักทายกัน ตามประสาคนคุ้นเคย.
สองแม่ลูกช่วยกันหาบผัก ผลไม้ที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มาจับจองในที่ที่เคยขายประจำ. เป็นโต๊ะไม้เก่าๆ ผ่านการใช้งานมานาน, สองข้าง ก็เป็นแม่ค้าที่เป็นเจ้าประจำ กำลังจัดผัก ให้เข้าที่, พร้อมกับ จัดผักวางบนตราชั่ง ส่งให้หญิงชราผู้หนึ่ง พร้อมกับรับเงินมา.
เสียงแม่ค้า ข้างๆ ร้องทัก ขณะจัดวางผักกาด ผักบุ้ง ให้ดูเรียบร้อย.
เธอบ่นถึงลูกสาว กับเพื่อนๆ แม่ค้า โดยไม่สนใจว่า ลูกสาวจะรู้สึกอย่างไร.
เธอตอบ โดยไม่หันไปมอง ขณะหยิบหัวมันขึ้นไปวางบนถาดตราชั่ง.
ชะเอม มองค้อนลูกสาว ขณะนี่เพื่อนแม่ค้า แอบยิ้มนิดๆ ที่เห็นลูกสาวฉลาดกว่าแม่.
ขณะที่ชะเอม ลูกสาว และเพื่อนแม่ค้า กำลังถกเถียงกันอยู่. ชาวเมือง ต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะวันนี้ พ่อเมืองยศกร กับ จันทนี พร้อมด้วย ผู้ติดตาม, เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงสองคน เดินทักทายผู้คนไปด้วย และ จับจ่ายซื้อผัก ข้าวของไปด้วย.
พ่อเมืองยศกร เป็นชายร่างสูง มีจมูกเป็นสันโด่ง งามราวกับเทวดา, รูปร่างก็ดูสง่างดงาม สวมเสื้อยืดสีขาวโปร่งตา, เดินเคียงคู่มากับ จันทนี ภรรยาสาว. เธอเป็นหญิง ร่างผอมสูงสมส่วน, ผิวขาว ผมยาวเสมอไหล่ ในชุดกระโปรงสีฟ้าขาว คลุมเข่า, เสื้อคอกระเช้าสีขาว. ส่วนผู้ติดตามหญิง หิ้วตระกร้าใส่ของ ผู้ชายมีสมุดบันทึกอยู่ในมือ และพกวิทยุสื่อสาร เหน็บไว้ที่เข็มขัดด้านหลัง.
บทที่ 1 ต้นเหตุของเรื่องราว ตอนที่ 1 ละครชีวิต แห่งนครวิชัยยศ
บ้านหรูหลังใหญ่ ออกแบบสร้าง ตามสถาปัตยกรรมยุโรป สีขาวสะอาด. ตั้งตระหง่าน อยู่ภายในรั้วสีเขียวขี้ม้าเข้ม ที่ออกแบบลวดลาย แสดงถึง ฐานะผู้นำของเมือง. ที่ประตูใหญ่ของรั้วบ้าน มีความกว้างกว่าถนนคอนกรีตเล็กน้อย. รถยนต์สามคันวิ่งสวนกันได้สบายๆ.
รถยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่านหน้าบ้าน จะมองเห็นป้ายชื่อ ซึ่งเป็นโลหะหล่อนูนได้ชัดเจน ข้อความว่า จวนผู้ว่านครวิชัยยศ ยศกร วิมลมาศ เมื่อมีรถวิ่งเข้าออก ก็จะมีเจ้าหน้าที่เวรยามสองนาย แต่งกายดูสง่า คอยตรวจตรา และอำนวยความสะดวกในการเปิด - ปิดประตู.
ภายในบริเวณจวนผู้ว่า, ถูกจัดระเบียบ ตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับ หลากสี สูงต่ำ ลดหลั่นกันเป็นระยะ. รองพื้นด้วยหญ้าเขียวขจี และทางเดิน ซึ่งปูด้วยแท่งหิน รูปสี่เหลี่ยม จัดวางเรียง เป็นรูปมนโค้งสวยงาม. ด้านหน้าของตัวบ้าน เยื้องไปทางทิศตะวันออก เป็นสระน้ำใสสะอาด, มีน้ำตกเล็กๆ อยู่อีกด้านหนึ่ง. บรรยากาศดูสวยงามราวกับสวรรค์.
ในห้องโถงใหญ่ ถูกจัดระเบียบให้ดูภูมิฐานตระการตา โดยหญิงแม่บ้าน สองคน ซึ่งกำลังปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดพื้น และเครื่องเรือน. ลึกเข้าไป อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน เป็นห้องรับรองแขก. ภายในห้อง มีรูปถ่ายของพ่อเมืองยศกร กับ จันทนี ตอนแต่งงานกันใหม่ๆ ติดอยู่บนผนังห้อง. ฝั่งตรงข้าม เป็นห้องรับประทานอาหาร.
บนโต๊ะอาหารเช้า, เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ยศกร กับ จันทนี ต่างคนต่างรับประทานอาหารเช้า โดยที่ไม่ยอมพูดจากัน, จนแม่บ้าน ที่รอเสริฟอาหารอยู่ห่างๆ ต่างก็บ่นกระซิบถามกัน ด้วยสีหน้าเศร้าๆ.
ยศกร ทำลายบรรยากาศความเงียบ ด้วยคำพูดห้วนๆ -
จันทนี เบนสายตาจากจานข้าว ไปที่สามี แล้วรวบช้อน ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ -
จันทนี มองหน้าสามี แล้วลุกเดินออกไป ปล่อยให้ ยศกร พูดตัดพ้ออยู่เพียงฝ่ายเดียว
เมื่อได้ยินคำว่า เมธาวรรณ เหมือนมีหนามแหลม มาทิ่มแทงหัวใจ. จันทนี รีบลุกเดินออกไป โดยไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆ จาก ยศกร.
ขณะที่เขายืนครุ่นคิดว่า ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร กับเรื่องยุ่งๆ นี้. เขาก็ได้ยินเสียงรถยนต์สตาร์ท และเมื่อมองลอดหน้าต่างออกไป, เห็นจันทนี ขับรถออกจากประตูบ้านไป.
ศาลาว่าราชการ นครวิชัยยศ ตั้งเป็นสง่าอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำใหญ่. ในห้องทำงาน ของผู้ว่านคร ถูกจัดระเบียบ ให้ดูเป็นสัดส่วน. มนู ซึ่งเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดผู้ว่ามากที่สุด มีหน้าที่สำคัญ คือ คอยรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกทุกอย่าง สำหรับผู้ที่มาติดต่อกับผู้ว่าโดยตรง.
พ่อเมืองยศกร เดินมาถึงหน้าห้อง, ก่อนที่จะเดินผ่านประตูกั้น เข้าไปที่โต๊ะทำงาน. เจ้าหน้าที่หญิงสองคน และ เจ้าหน้าที่ชายอีกคน ซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง รีบลุกขึ้นยืนไหว้คารวะ. ทั้ง 3 คนต่างมีความรู้สึกคล้ายๆ กันว่า สีหน้าท่าทางของท่าน บึ้งตึงเหมือนไปทะเลาะกับใครมา.
ยศกร มาถึงที่โต๊ะทำงาน นั่งยังไม่ทันหายเหนื่อย, มนู ก็นำหนังสือมายื่นให้.
ยศกร รับหนังสือมาดู, ชั่วครู่ ก็มีสีหน้าสงสัย และรู้สึกขัดใจขึ้นมาทันที.
ยศกร ยกหูโทรศัพท์, กดหมายเลข ด้วยอารมณ์ไม่ดี. มนู เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงปลีกตัว ออกไปนอกห้องก่อน.
เจ้าของเสียงในโทรศัพท์ พูดเหมือนยื่นคำขาด, แค่มองเห็นเธอทางด้านหลัง ก็รู้ว่าเธอเป็นหญิงสาว สวย ผิวขาว เหมือนคนมีตระกูลสูง แต่น้ำเสียงกลับฟังดูตรงกันข้าม.
เสียงยศกร มีอาการแผ่วลง. เขามีอาการหงุดหงิด อย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะวางหูโทรศัพท์ลง.
เมธาวรรณ วางหูโทรศัพท์ในมือ ด้วยสีหน้ายั่วโทสะ. แม้เธอจะเป็นสาวงาม ผู้มีเรือนร่างยั่วยวน กวนเสน่ห์ผู้ชาย แต่เมื่อเข้าใกล้ จะรู้สึกได้ทันที ถึงความร้ายกาจ ริษยา เจ้าเล่ห์. บุคลิกที่น่าจะเป็นคนมีวงศ์สกุล กลับสลายไปใน เมื่อได้ยินเสียงพูดและสีหน้าของเธอ.
...
โรงพยาบาลรัตนแพทย์, เป็นโรงพยาบาลเอกชน ขนาดใหญ่ ประจำจังหวัด, จึงมีผู้ป่วย มาใช้บริการตรวจรักษา ไม่ขาดระยะ.
ห้องตรวจแผนกสูตินารีเวช, นายแพทย์ใหญ่ ขณะที่หมอกำลังตรวจครรภ์ ให้กับสตรีผู้หนึ่ง. พยาบาล ก็เดินนำเอกสาร ประวัติคนไข้ มาส่งให้หมอ, ระบุชื่อคนไข้ จันทนี วิมลมาศ.
ที่ห้องรับรองของโรงพยาบาล, มีคนไข้สองสามราย นั่งรอผลตรวจ. สักครู่ นายแพทย์ใหญ่ เดินเข้าไปหาหญิงสาว ที่มารอรับฟังผลตรวจ. ที่โต๊ะรับรองพิเศษ หน้าห้องสูตินารีเวช เธอคือ เมธาวรรณ นั่นเอง.
หมอรายงาน เหมือนจะบอก ความลับอะไรบางอย่าง แต่ เมธาวรรณ ไม่ทันสังกต เพราะมัวแต่ดีใจ ที่ตนเองกำลังจะมีลูก.
ไม่มีอะไร จะดีใจไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว, เมธาวรรณ ดีใจจนอยากจะลุกขึ้นตะโกน ให้ก้องไปทั่วโรงพยาบาล, เสียงจะได้ไปถึงหูของ ยศกร. เธอได้แต่ยิ้มแก้มปริ และกล่าวขอบคุณหมอ สองสามครั้ง ก่อนที่จะลาจากไป.
ค่ำคืนนี้ ท้องฟ้าดูสว่างไสวด้วยดวงดาว พระจันทร์เด็มดวง ลอยเด่น เหนือบริเวณจวนผู้ว่านครแห่งนี้. มันดูสว่างไสว ราวกับมีงานเทศกาล.
อาหารค่ำ ถูกจัดไว้เป็นพิเศษ ถูกใจแม่บ้านมากที่สุด, ทั้งๆ ที่เธอทั้งสองไม่ใช่คนกิน. แต่ภาพเบื้องหน้า พวกเธอ ก็อดแสดงอาการดีใจไม่ได้ ที่เห็นรอยยิ้มของ คุณจันทนี, คุณผู้หญิงของพวกเธอ. ขณะทานอาหาร ยศกร เองก็แปลกใจ ที่เห็นภรรยาเปลี่ยนไป. แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะคิดว่า ยังมีเรื่องค้างคาใจกันอยู่. คงปล่อยให้เวลา ล่วงเลยไป ด้วยการสนทนาเรื่องอื่นแทน.
ความสวยงามของท้องฟ้าวันนี้ ช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน. ยศกร ผละจากเตียงนอน ออกไป ลากม่านหน้าต่าง เปิดออก. ท้องฟ้าใสเป็นประกาย ดวงดาว ถูกจับวางเป็นจุดๆ อย่างอิสระ, บ้างก็โดดเดี่ยว บ้างก็รวมกันเป็นกลุ่ม. สร้างจินตนาการให้ผู้คน เล่าขานเป็นตำนานราศรีต่างๆ, ช่างสวยงามจริงๆ.
จันทนี แอบเดินเข้ามาหา ยศกร ทางด้านหลัง. เขารู้สึกตัว เมื่อภรรยาสวมกอดเบาๆ ทางด้านหลัง.
จันทนี พูดด้วยน้ำเสียง ที่ออดอ้อน ซึ่งหลายเดือนมาแล้ว ที่เธอไม่เคยพูดดีด้วยกับสามีอย่างนี้. ก็ยิ่งทำให้ ยศกร แปลกใจหนักขึ้น.
ยศกร รีบหันหน้ามาสบตากับ ภรรยา ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ. เหมือนเด็กเล็ก ที่ได้ของเล่นถูกใจ, ราวกับว่าโลกทั้งใบ เต็มไปด้วยสายรุ้งหลากสี ที่สามารถไขว่คว้าได้ ตามใจชอบ. บรรยากาศอึมครึม ของสามีภรรยาคู่นี้ หายไปในทันที. ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา คืนนี้เป็นคืนที่มีความสุขที่สุด.
ยศกร ค่อยๆ สวมกอด ภรรยา ไว้ในวงแขน ร้อยรัด ด้วยความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจ. เขามองขึ้นมาบนท้องฟ้า ราวกับจะบอก ขอบคุณสวรรค์. ขอบคุณเทพ ที่สถิตย์อยู่บนดวงดาวทุกดวง.
...
บ่ายวันหนึ่ง ท้องฟ้าดูปลอดโปร่ง แต่มีเมฆเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ ประปราย. อากาศร้อนๆ อย่างนี้ ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิ ให้กับผิวถนนลาดยาง. ล้อรถยนต์ ที่วิ่งอยู่บนผิวถนนลาดยาง เหมือนวิ่งอยู่บน เปลวเพลิง.
รถยนต์เก๋งสีขาวเงิน เลี้ยวตรงปากทางแยก เข้าบ้านหลังหนึ่ง. ดูไกลๆ ก็รู้ว่า เป็นบ้านของคน ที่ค่อนข้างมีฐานะดี ในหมู่บ้าน. มันวิ่งเข้าไปจอด ที่หน้าบ้าน. เมธาวรรณ ในชุดคลุมท้อง ลงจากรถ พาตัวเอง ลงจากรถ, พร้อมกับหิ้วของฝาก เดินเข้าไป ในบ้านหลังนั้น.
เมื่อมาถึง เมธาวรรณ สั่งให้คนขับรถ วางของฝากลงกับพื้นโต๊ะรับแขก. ขณะที่หญิงวัยกลางคน หน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เดินออกมา จากห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน แล้วเอ่ยถามทันที ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาใกล้ๆ.
ผู้เป็นแม่ ก็พอรู้เบื้องหลังของลูกสาวจอมโวยวาย กับผัวผู้สูงศักดิ์อยู่บ้าง. ในฐานะแม่ ที่ชอบสอดรู้เรื่องของชาวบ้านอยู่แล้ว จนกลายเป็นแบบอย่าง ถ่ายทอดไปสู่ลูกสาว ก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ เป็นธรรมดา. เพราะลูกของลูกสาวที่กำลังจะเกิดมา ไม่ได้มีสิทธิยิ่งใหญ่ไปกว่า การเป็นลูกเมียน้อยคนอื่น.
เมธาวรรณ พูดด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี ขณะที่แม่ก็หัวเราะ ด้วยความชอบใจ ที่จะมีหลานกับเขาสักคน.
...
ในห้องคลอด ตึกสูตินารีเวช ของโรงพยาบาลรัตนแพทย์ ทั้งพยาบาลและแพทย์ ต่างวิ่งเข้าออก ห้องทำคลอด 1 และ ห้องทำคลอด 2 อยู่ไม่ขาดระยะ. เหมือนมีบุคคลสำคัญ มาคลอดลูกที่นี่. ... สักครู่ เสียงทารก ก็ร้องออกมาจากในห้องทั้งสอง ในเวลาไล่เลี่ยกัน. ทารกที่คลอดออกมา ถูกผูกด้วยแผ่นป้ายฉลาก ที่ข้อมือ.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|