เพลง แม่พระ แม่พิมพ์พลายชุมพล

แสงเรืองรอง ที่ส่องประกายอยู่พลายชุมพล
เป็นแม่พิมพ์อยู่สู้ทน สั่งสอนศิษย์จนเป็นผลดี
เหนื่อยยากเพียงไร สู้ทนทำไปอยู่ทุกนาที
ครูก็ยังปราณี สั่งสอนศิษย์มีกตัญญู

ที่โรงเรียน ก็เปลี่ยนเวียนวนมากล้นปัญหา
เด็กหญิงชายมากหลายหน้า ก็ปรารถนาความรักจากครู
ไม่มีเวลาที่จะเฮฮา ต้องมาค้ำชู
ครอบครัวรออยู่ นี่แหละครูครองความดี

*คุณค่าของครู ศิษย์ก็ควรรู้อยู่ในใจ
งานที่ทำนั้นยิ่งใหญ่ สร้างชาติไทยท่วมท้นทวี
ให้มีความรู้อยู่คู่ความรักและสร้างศักดิ์ศรี
ครูก็พร้อมยอมพลี ส่งเสริมศิษย์ดีเสมอมา

ชื่อของครูใครใครก็รู้ อยู่ในอุทร
วันเวลาต้องพักผ่อน แต่ครูก็สอนไม่ผ่อนลา
อยู่ไกลแค่ไหน ก็ใส่ใจเสาะหาวิชา
เกรงนักเรียนจะคอยท่า เร่งรุดมาด้วยความห่วงใย

สอนนักเรียน จนวันเกษีณ ดุจเทียนโรยรา
แต่ก็ยังอยากเห็นหน้า ลูกศิษย์มาอยู่ล้อมรอบกาย
ได้มีความรู้ เพื่อช่วยกอบกู้ผู้คนมากหลาย
ครูนั้นแสนภูมิใจ เห็นเด็กของไทยเติบใหญ่วัฒนา.

บทล้อ
เพลง แม่พิมพ์เน่า โรงเรียนผุ

แสงเรืองเรือง ที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วตำบล
คือแม่พิมพ์จู้จี้ขี้บ่น สั่งสอนศิษย์จนหูชา
ทำตัวสบาย นอนดึกตื่นสายไม่ทันเวลา
โถยังมีน้ำหน้า ว่าสอนศิษย์มาจนเป็นกูรู

ที่โรงเรียนก็เปลี่ยนเวียนครูอยู่ทุกปีมา
เด็กหญิงชายมากหลายหน้า ก็ปรารถนาความรักจากครู
กลับเอาเวลาเที่ยวเตร่เฮฮา นิสัยเจ้าชู
ครอบครัวรออยู่ นี่แหละคือครูตัวอัปรีย์

คุณค่าของครู ศิษย์ก็ควรรู้อยู่ในใจ
งานที่ทำก็จับฉ่าย ปล่อยให้ชาติไทยท่วมทุกข์ทวี
ปล่อยให้นักเรียนวนเวียนเล่นเกมบัดสี
ครูที่เลวแบบนี้ ต้องจับเฆี่ยนตีจนก้นชา

ชื่อของครูใครใครก็รู้ อยู่ในสหกรณ์
วันวันเอาแต่หนีนอน ไม่เข้าสอนอ้างป่วยแล้วลา
อยู่ใกล้เพียงใด ก็ไม่ใส่ใจเสาะหาวิชา
นักเรียนเป็นบ้า ไม่รู้ว่าครูกูอยู่ไหน

สอนนักเรียนถึงวันเกษียณเบียดเบียนเวลา
อยู่ให้แก่จนเหม็นหน้า ลูกศิษย์ลูกหาไม่กล้ำกราย
ไม่มีความรู้ ไม่ช่วยเชิดชู ให้คนกราบไหว้
กูนั้นแสนดีใจ ที่มึงไปเสียจากโรงเรียนกู.

๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗

[กลับไป หน้าสารบัญชื่อเพลง]

เพลง น้ำลงเดือนยี่ ชีวีสิ้นหวัง
ประเภท: บทเพลงแปลงคำร้อง
คำร้อง: สู่ดิน ชาวหินฟ้า
ทำนอง: เพลงน้ำลงเดือนยี่ (ศรคีรี ศรีประจวบ)
วัน เดือน ปี : 24 กันยายน 2545

เมื่อเดือนสิบเอ็ด น้ำเริ่มไหลนอง
เพ็ญเดือนสิบสอง น้ำในคลองก็เริ่มจะทรง
ครั้นถึงเดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลงไหลลง
ตกเดือนสามแล้วน้ำก็คง แห้งขอดตลอดลำคลอง

เมื่อเดือนสิบเอ็ดเขาให้สัญญา
กู้เงินก้อนหนา ด้วยสัญญาคืนเดือนสิบสอง
เพื่อใช้หนี้เก่า ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าของ
แต่ความหวังของเรามันต้อง
พังทลายเหมือนสายฟ้าฝ่า

[*].....หวังว่าเดือนยี่ ขอมีชีวิตใหม่ใหม่
นากลับจมล่มมลาย หายไปแทบวายชีวา
ช่างเป็นไปได้ กับสายลำน้ำธารา
ธรรมชาติโหดร้ายตลอดมา ชีวิตชาวนาโถ! ไม่มั่นคง

เมื่อเดือนสิบเอ็ด น้ำเริ่มไหลนอง
พอเดือนสิบสอง น้ำก็นองท่วมนาป่าดง
ครั้นถึงเดือนยี่ กลับมีชีวิตติดกรง
ด้วยไม่มีให้หนี้ลดลง
ไหลถอยลงเหมือนน้ำเดือนยี่

[*].....หวังว่าเดือนยี่ ขอมีชีวิตใหม่ใหม่
นากลับจมล่มมลาย หายไปแทบวายชีวา
ช่างเป็นไปได้ กับสายลำน้ำธารา
ธรรมชาติโหดร้ายตลอดมา ชีวิตชาวนาโถ! ไม่มั่นคง

เมื่อเดือนสิบเอ็ด น้ำแห้งขอดคลอง
พอเดือนสิบสอง น้ำก็นองท่วมนาป่าดง
ครั้นถึงเดือนยี่ กลับมีชีวิตติดกรง
ด้วยไม่มีให้หนี้ลดลง
ไหลถอยลงเหมือนน้ำเดือนยี่

[**].....หวังว่าเดือนยี่ ขอมีชีวิตใหม่ใหม่
นากลับจมล่มมลาย หายไปแทบวายชีวา
ช่างเป็นไปได้ กับสายลำน้ำธารา
ธรรมชาติโหดร้ายตลอดมา ชีวิตชาวนาโถ! ไม่มั่นคง

เมื่อเดือนสิบเอ็ด น้ำแห้งขอดคลอง
พอเดือนสิบสอง น้ำก็นองท่วมนาป่าดง
ครั้นถึงเดือนยี่ กลับมีชีวิตติดกรง
ด้วยไม่มีให้หนี้ลดลง
ไหลถอยลงเหมือนน้ำเดือนยี่

[กลับไป หน้าสารบัญชื่อเพลง]

เพลง บัญชีติดลบ ชีวิตติดหล่ม
ประเภท: บทเพลงแปลงคำร้อง
คำร้อง: อาจารย์สุเมธ พรหมรักษา (ศีรษะอโศก)
ทำนอง: เพลงกระเป๋าแบน แฟนทิ้ง (เอกราช สุวรรณภูมิ)
วัน เดือน ปี : 2544

ชีวิตผ่านมา ดวงชะตาไม่น่าตกต่ำ
แต่เช้ายันค่ำ ตรากตรำชุ่มฉ่ำเหงื่อไหล
เมื่อมีเงินตรา ซื้อหาเอามาสุขใจ
แต่แล้วก็ตรมหมองไหม้ โธ่เป็นไปได้หรือนี่

เหตุผลไม่มี เห็นทีวีสังคมออกข่าว
มีทั้งเบียร์เหล้า มอมเมารสรูปกลิ่นสี
สนุกสนาน ไม่นานจนเงินไม่มี
แต่แล้วก็กลายเป็นหนี้ สิ้นดีไม่มีราคา

[*].....อยากจะรวย ซื้อหวยไม่รู้จักพอ
อนาคตเริ่มหักงอ เพราะรอแต่โชคชะตา
เพื่อนกินมีมาก เพื่อนตายก็พลอยจากลา
เปรียบไปก็คล้ายปัญหา นาวาที่รอวันล่ม

ความหวังยังมี มาคิดบัญชีให้ดีเสียใหม่
มาเสริมรายได้ จ่ายน้อยค่อยค่อยสะสม
ประหยัดขยัน สร้างสรรชีวีรื่นรมย์
สร้างตัวพร้อมเพื่อสังคม บุญนิยมให้คนจริงใจ.

[ซ้ำ*]

[กลับไป หน้าสารบัญชื่อเพลง]

เพลง ปั้นดินให้เป็นทอง สร้างผองชนให้เป็นสุข
ประเภท: บทเพลงแปลงคำร้อง
คำร้อง: สู่ดิน ชาวหินฟ้า
ทำนอง: เพลง ปั้นดินให้เป็นดาว (ธานินทร์ อินทรเทพ)
วัน เดือน ปี : 22 กันยายน 2545

จากดินแห้งแล้ง ฉันแปลงฉันปั้น
ให้พ้นโศกศัลย์ สู่วันสดใส
ปลูกพืชผักไว้ ไร้สารเคมีใดใด
ธรรมชาติสร้างไว้ สดใสสมดุลเสมอ

ช่วยดินที่ร้าง ช่วยสร้างชีวิต
จากดินเป็นพิษ ผลผลิตเลิศเลอ
ด้วยจุลินทรีย์ ผองชีวีล้นเอ่อ
นี่คือของจริงนะเธอ ไม่เพ้อ ละเมอ จริงใจ

[*]....ยินดี ที่ผองชน เป็นสุข
รื่นเริงสนุก เพลิดเพลินชีวิตใหม่
จากดินสู่ฟ้า ขอจงทุ่มโถมแรงกาย
เป็นกลุ่มดาวน้อยสุกใส รวมใจพลังสร้างสรร

จากหมู่คนดี ที่มีแต่ให้
เผื่อแผ่กันไว้ สังคมในฝัน
สิ่งหนึ่งข้าน้อย ขอคืนเป็นรางวัล
ขอจดจำสัมพันธ์ วันฉันนอนกองฟอน

[**]....ยินดีที่ ผองชน เป็นสุข
รื่นเริงสนุก เพลิดเพลินชีวิตใหม่
จากดินสู่ฟ้า ขอจงทุ่มโถมแรงกาย
เป็นกลุ่มดาวน้อยสุกใส รวมใจพลังสร้างสรร

จากหมู่คนดี ที่มีแต่ให้
ผูกพันธ์กันไว้ สังคมในฝัน
สิ่งหนึ่งข้าน้อย ขอคืนเป็นรางวัล
ขอจดจำสัมพันธ์ คืนวันทุกภพชาติไป.

[กลับไป หน้าสารบัญชื่อเพลง]

เพลง รอยไถแปลง
ประเภท: บทเพลงแปลงคำร้อง
คำร้อง: สู่ดิน ชาวหินฟ้า
ทำนอง: เพลง รอยไถแปร (นิค นิรนาม)
วัน เดือน ปี : 6 ตุลาคม 2545

ทุ่งนาแดนนี้ เคยมีความหมาย
หอมดินกลิ่นโคลนสาบควาย ภูมิใจที่เห็นรวงข้าว
แต่นากลับร้าง เหลือฟาง ที่ถูกไฟเผา
เห็นเคียวที่หักปักคาซังข้าว เล่นเอาใจเราสะท้อน

ทุ่งนาแดนนี้ ที่เคยไถทำ
สองมือที่เคยหว่านดำ เมื่อคราฝนพรำหน้าก่อน
แต่มาปีนี้ ฤดีสุดแสนจะสะท้อน
เพราะหนี้เงินกู้ไร้ทางไถ่ถอน ทุกข์ร้อนระกำชีวี

โชคดีที่ได้มา...(ศาลี - ศรีษะ - ปฐมอโศก - สันติอโศก - สีมา) อโศก
เลิกแล้วชีวิตลวงโลก เป็นโชค รางวัล ชีวี
เปลี่ยนนิสัยเก่า ฝึกเอานิสัยใหม่ให้ดี
สัมมาอาชีพก็มี คนดี รีบมา เร็วไว

[*]....ทุ่งนาแดนนี้ สุขีไปอีกนาน
ผองเรา ร่วมใจ ประสาน ปลูกข้าวตามแนวทางใหม่
กสิกรรมไร้สาร-เคมี ที่ทำทั่วไทย
ปลุกจิตสำนึกกันไว้ ชุมชนของไทย เข้มแข็งยืนนาน

[**]....ทุ่งนาแดนนี้ ไม่ร้างอีกแล้ว
ผองชน ต่างแน่ใจแน่ว ปลูกข้าวตามแนวทางใหม่
กสิกรรมไร้สาร-เคมี ที่ทำทั่วไทย
ประสานสัมพันธ์เครือข่าย ชุมชนของไทย เข้มแข็งตลอดกาล.

[กลับไป หน้าสารบัญชื่อเพลง]