หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

Blog film school

My Media channel

blog

1 หน้าแรก
2
บทความ
หนังสือเล่ม
ร้อยกรอง เพลง
3
บทภาพยนตร์
ภาพยนตร์สั้น
วีดิโอ มิวสิควีดิโอ
4
วิชาเรียนนิเทศศาสตร์
ตำราเอกสาร
สื่อการเรียน
 

 

 

 

 

 

 


:เอาสนุก แต่ให้ฉุกคิด พอดีวัย

 

ก่อนอายุ 75 ปี ไปเที่ยวกันซะพี่น้อง ก่อนที่จะ :


เดินไม่ไหว
ใจไม่สู้
ดูไม่เห็น
เอ็นจะยึด
กินแล้วจืด
เหนื่อยหืดหอบ
ชอบรำคาญ
ลูกหลานเบื่อ
ไม่เหลือเพื่อน
ลืมเลือนเลอะเทอะ
ไปเที่ยวกันเถอะ หมู่เฮา

 

คำแนะนำ ทำไงให้แก่ช้า ...

คบเด็กเป็นหลัก
  แต่ระวังกับดัก เด็กถอนหงอก.

อย่าจมปลักกับวัดวา
  แต่ก็อย่าแส่หา นรก นะอีดอก!

หัวเราะเฮฮาบ้าง
  แต่อย่าเฮฮา ให้เป็นวอก จนเสียวัย.

ลามก เป็นบางครั้ง
  แต่อย่าคลั่ง เป็นเฒ่าหัวงูใหญ่.

ฟังเพลง เป็นประจำ
  แต่อย่าร่ำสุรา หนักเกินไป.

ค่ำลงก๊งละเป๊ก
  ระวังเด็กใหม่ มาเนียนัว.

อย่าเก๊กจนเกินตัว
  ระวังเลือดหัว กำเดาไหล.

อย่ามัวเมาแต่ธรรมะ
  แต่ยังดีกว่า เมาสมบัติขยะ จะบอกให้.

อย่าลดละเรื่องกิเลส
  เฮ้ย! คิดจะเป็นเปรต หรืออย่างไร!

อย่าทำตัวทุเรศทุรังไป
  แต่ก็อย่าให้ ฟรุ๊งฟริ๊ง เหมือนลิงกัง.

มีสตังค์อย่าขี้เหนียว.
  แต่อย่าเที่ยวเปย์ (paid) กระเป๋าขาด.

ท่องเที่ยวให้สำราญ
  แต่ระวัง! อย่านาน จนเยี่ยวราด.

เดินเหินอย่างองอาจ
  ให้ดูสมาร์ท สมวัย.

จะมัวช้าอยู่ใย
  รีบทำไวๆ แล้วไชโย ๆ ๆ ๆ.

 

ต่อยอด ดัดแปลง จาก @Direk.Tongaram
เพื่อความบันเทิง

 

15 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:สิ่งเก่า สิ่งใหม่

 

ถ้าไม่ทำ สิ่งใหม่,
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า
สิ่งเก่านั้น ดีกว่า.

ถ้าไม่รักษา สิ่งเก่า,
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า
สิ่งใหม่นั้น ดีกว่า.

ทั้งสิ่งเก่า และ สิ่งใหม่
ต้องอาศัยพึ่งพา กันและกัน,
มีความสำคัญ เท่ากัน, และ
เป็นเหตุเป็นผลต่อกัน.

 

10 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ลักษณะคนริษยา คนบ้า คนดื้อ

 

คนริษยา เป็นคนฉลาด มีภาพลักษณ์ น่าเชื่อถือ ในสังคม, ไม่ใช่ คนต่ำต้อย ด้อยค่า. แต่เมื่อเห็น คนอื่น ดีกว่า ตนเอง แล้ว รู้สึกไม่สบายใจ และทนไม่ได้ จึงแสดงวาจา ด้วยกิริยา กระทบ เย้ยหยัน เสียดสี ดูหมิ่น ด้อยค่า”


“คนบ้า ไม่โง่, แต่ เป็นคน มีเหตุผล ที่คนทั่วไป ไม่ยอมรับ”


“คนดื้อ ไม่ใช่ ไม่มีเหตุผล, แต่ ไม่ยอมรับ กฏเกณฑ์ ที่ตัวเอง ไม่ได้สร้างขึ้น”

 

30 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ขาดทุนคือกำไร

 

อาม่า - ไอ้ตี๋ มึงต้องทำกำไรเยอะๆ จำไว้ ไม่งั้น ขาดทุนตายห่า.
ไอ้ตี๋ - !?

เพราะไม่รู้ หัวกู คิดอะไร
สร้างสรรค์ หรือจัญไร ไม่กังขา
ไม่เข้าใจ ไม่รู้นัย ในปรัชญา
จึ่งด้อยค่า คำคม สมควรควาย.

 

26 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:บุคคลอันตราย

 

ระวัง! บุคคล 3 คนนี้ ไว้ให้ดี!!?

สนธิ ลิ้มทองกุล
ศรีสุวรรณ จรรยา
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา

อย่าฟัง! อย่าดู! อย่าอ่าน!

มิฉะนั้น ... ท่านจะ
สูญเสีย ความโง่ ไปตลอดกาล.

 

25 ก.ค. 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line


:ละ 3 อย่าง ป้องกัน โควิด ระบาด

 

- ละนิสัย อร่อย (เพราะ ถ้าติด "อร่อย" ลิ้น ก็จะพาไป ในเขตไวรัสระบาด)
- ละนิสัยสนุกเฮฮา (เพราะ "สนุกเฮฮา" ตีน ก็จะพาไป ในเขตไวรัสระบาด)
- ละการนัวเนีย ใกล้ชิด (เพราะ "นัวเนีย ใกล้ชิด" เหมือน สร้างสะพาน มือ รัยไวรัสเข้ามา)

 

30 มิถุนายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เวลา ในความรู้สึก

 

เวลา คือ สิ่งที่เราเห็น เรารู้สึก.


เวลา วิ่งไปข้างหน้า เหมือน แสง,
เวลา แล่นตรงไป เหมือน วงโคจรของโลก.

 

ดูเหมือนว่า เวลา ไม่ย้อนกลับ แต่เวลา กับ “ความรู้สึก” ถูกผสมเป็นอันเดียวกัน, ทำให้ ความจริง เกี่ยวกับเวลา เป็นสิ่งเดียว กับ ความรู้สึก.

 

ความจริง ระยะใกล้ - แสง เดินทาง เป็นเส้นตรง, โลก หมุนรอบตัวเอง และเดินทาง เป็นเส้นตรง.

 

ความจริง ระยะไกล - แสง เดินทาง เป็นเส้นโค้ง, โลก เดินทาง เป็นวงรี. เช่นเดียวกับ เราลากเส้นตรง ไปบนผิวโลก ในที่สุด ปลายเส้นตรง จะบรรจบกัน. วัฏจักร (วนรอบ) เกิดได้กับ ทุกสรรพสิ่ง ทุกชีวิต.

 

ความจริง ในความรู้สึก - เวลา ย้อนกลับได้. อนาคต ก็คือ ปัจจุบันของอดีต, อดีต คือ อนาคตของปัจจุบัน. ปัจจุบัน เป็นจุดบรรจบกัน ของกาลเวลา.

(มีสิ่งเดียว ที่อยู่เหนือ กฏของเวลา คือ วิมุตติ-นิพพาน)

29 มิถุนายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เลี้ยงสัตว์ ให้เป็นเครือญาติ

 

ทุกสรรพสิ่ง ย่อมมี สมดุล (balance) ของตัวเอง. เป็นไปตาม กฎสังขตลักษณะ (conditioned), คือ มีเกิด ต้องมี เสื่อม และเสื่อมต่อเนื่อง ไปสู่การดับสลาย (มี เกิด ย่อมมี ตาย).

 

เลี้ยง หมา แมว, มีสุข ย่อม มีเสีย ตามมา.

_เสียเงินค่ารักษาพยาบาล,

_เสียโอกาสบางอย่าง ที่ติดพันมัน ละทิ้งมันไปไม่ได้,

_เสียสุขภาพจิต ของคนข้างๆ อันเนื่องมาจาก พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ของหมาแมว,

_เสียสุขภาพ ของคนเลี้ยง อันเนื่องมาจากกลิ่น เชื้อโรคสะสม (เพราะไม่ได้ อาบน้ำให้มัน),

_เสียจิต "สุคติ" เพราะรักสัตว์เดรัจฉาน.

 

การผูกพัน อยู่กับสัตว์เดรัจฉาน การยกย่อง ให้เกียรติ เป็นเครือญาติ (ถึงกับเรียก น้อง ..., ลูก ...) ย่อมพาจิตวิญญาณ มนุษย์ ที่สูงอยู่แล้ว ไปสู่ จิตของเดรัจฉาน ที่ต่ำกว่า.

 

สิ่งนี้ คนทั่วไป ไม่ค่อยรู้ จึงพากัน ด่าทอ คนที่เรียก สัตว์เลี้ยงแสนรัก ว่า เดรัจฉาน, พูดแบบนี้ เป็นคนโหดร้าย ไม่รักสัตว์.

 

สัตว์, มันมี ภาษา วัฒนธรรม ต่ำกว่า มนุษย์มาก. โจร ที่ว่าโหดร้าย ยิ่งกว่าสัตว์, ก็ยังพูด ฟัง ภาษาคน ภาษาธรรม ได้บ้าง. แต่สัตว์ ทำไม่ได้เลย.

 

จิตสุคติ คือ จิต ที่รับเอา กุศล ความดี ความประเสริฐ ไว้ได้. แต่สัตว์ ทำไม่ได้. ที่เราเห็นสัตว์ แสดงท่าสวัสดี หรือ นกพูดได้ ไม่ใช่ กุศล แต่ที่มันทำเช่นนั้น เพราะ "เงื่อนไข" ที่เราสร้าง ให้มัน ต่างหาก เช่น ถ้ามันทำเช่นนั้นได้ มันจะได้ อาหาร.

 

ดังนั้น เมื่อได้ภพชาติ เป็นมนุษย์แล้ว อย่าใฝ่หา ใฝ่ทำ ให้เป็นจิต "ทุคติ" เลย. เพราะ ถ้าได้ภพเดรัจฉานแล้ว เรียนรู้ ธรรม ได้ยาก หรือไม่ได้เลย ย่อมทำกุศล ไม่ได้ ตายแล้ว ยังเวียนเกิด ในภพเดรัจฉาน อีกนับรอบไม่ถ้วน.

 

จงเลิกหา เลิกพา สัตว์เลี้ยง เพื่อหวังความสุข ชั่วคราว แต่แลกด้วย ข้อเสียมากมาย. ไม่คุ้มเลย ในการเป็นมนุษย์.

 

15 มิถุนายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:แยกกาย จิต

 

ผู้แยก กาย (ขันธ์ห้า) ออกจาก จิต (วิมุตติ) ได้เด็ดขาด เรียกว่า อรหันตบุคคล.

ดังนั้น ส่วนกาย ที่ยังทรงสภาพอยู่ ก็หล่อเลี้ยงไปตามธรรมชาติ (แก่ เจ็บ ตาย) ส่วนจิต หลุดพ้นแล้ว จากอิทธิพล ของอะไร ของสิ่งใด จึงไม่ต้องทำอะไรกับ จิต. แต่ จิต ของผู้ยังไม่หลุดพ้น ยังจะต้อง นัวเนียกับ ขันธ์ห้า ต่อไป.

เข้าใจตาม พุทธวจนะ ของ ตถาคต.

 

2 มิถุนายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:งานสร้าง

 

งานสร้าง วัตถุ, สร้างใหม่ ง่ายกว่า แก้ไข สิ่งที่ผิดพลาด.
Matter, easier create than modifying.

 

งานสร้าง มนุษย์, แก้ไข สิ่งที่เคยผิดพลาด ง่ายกว่า ตายแล้ว ไปเกิดใหม่.
Human, easier change a wrong themselves than rebirth.

 

งานสร้าง วัตถุ, อาศัยบทเรียน จาก สิ่งที่ผิดพลาด. แต่ งานสร้าง มนุษย์, ต้องอาศัย ความทุกข์ ความเจ็บปวด ที่เกิดจาก ข้อผิดพลาด ของตน เป็นเงื่อนไข และ บทเรียน.
Constructed things done from mistaken. Created Human must have conditions and lesson from mistaken of themselve.

 

วัตถุชนิดเดียวกัน พังแล้ว สร้างได้ หลายครั้ง (copying). แต่ คนคนหนึ่ง เมื่อ 'เสียคน' หรือ ตายไปแล้ว, ไม่อาจ สร้างขึ้นใหม่ได้อีก เพราะ โอกาส เกิดเป็นมนุษย์นั้น ยาก, ส่วนมาก ไปเกิดใน นรก เทียบสัดส่วน เท่ากับ เศษดินปลายเล็บ กับ แผ่นดินทั้งโลก.
Copying a matter can do manytime, although broken.
But a human
.

10 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line


:คนดี คนริษยา

 

คนดี ย่อมไม่ ปรารถนา แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ให้ร้ายคนอื่น.
คนเลว ย่อมเกลียดชัง คนดี, แบ่งแยก ฝักฝ่าย ด้วยความคิดต่าง.

 

จิตริษยา ในตัวเอง, คนดี มองเห็นง่าย แต่คนร้าย จะมองไม่เห็น.

 

ริษยา คือ อย่างไร, ตัวเองเท่านั้น ที่รู้ คนอื่น ไม่อาจรู้ได้เลย. “เมื่อเห็น คนอื่น ดีกว่าตัวเองแล้ว ย่อมไม่สบายใจ” นี่แหละ คนริษยา.

 

คนดี ย่อมคบกับ คนดี และ ยินดี ที่จะคบกับ คนร้าย ที่กลับใจ ประพฤติดี.

ส่วน คนเลว ย่อมเข้ากันได้ดี กับ คนเลว และจะ รังเกียจ คนดี.

 

3 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เหตุผล กับ ความรัก

 

พระอภัยมณี บอกเลิก นางยักษ์
ด้วยเหตุผลที่ว่า นางยักษ์ ไม่ใช่
คน. แต่กับ นางเงือก ก็ไม่ใช่
คน เหมือนกัน, แต่พระอภัยมณี ก็ยัง รัก.

 

หมายความว่า เหตุผล ที่จะไม่รัก มักตอแหลเสมอ?

ระหว่าง นางยักษ์ กับ นางเงือก อะไร น่ารักกว่า?

 

ถ้า ความน่ารัก เป็นสิ่ง ตอแหล ... คนทั้งโลก ก็คงจะ ตอแหล หมดโลก.

นี่คือ เหตุผลที่ว่า ทำไม พระอภัยมณี จึงมีเมีย เป็นสัตว์ประหลาด. (สัตว์ประหลาด ก็มีความน่ารัก นะจ้ะ!)

 

27 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:สอนลูกให้เป็นอย่างไร

 

อย่าสอนลูกให้เป็น..“คนรวย”
แต่สอนให้..เป็นคนมี...“ความสุข”
เพราะเมื่อเขาเติบโตขึ้น
เขาจะตัดสินคนอื่นด้วย.. “คุ ณ ค่ า”
ไม่ใช่ “ราคา”

 

อย่าสอนลูก ให้เป็น “คนรวย”
แต่สอน ให้เป็น “คนรู้จักพอ”
เพราะ เมื่อเขาเติบโตขึ้น
เขาจะตัดสินคนอื่น ด้วย “การแบ่งปัน”
ไม่ใช่ “เงิน”

 

ถ้าสอนลูก ให้เป็น “คนรวย”
เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะตัดสิน คนอื่น ด้วย “เงิน”

แต่ถ้าสอน ให้เป็น “คนรู้จักพอ”
เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะตัดสิน คนอื่น ด้วย “การแบ่งปัน”

 

16 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เมาแล้วขับ

 

ข้อคิด คำนึง ช่วงสงกรานต์ ... นี่ไม่ใช่เรื่องตลก.

 

เมา (ดื่ม) แล้ว ขับ จับ คนเมา แต่ไม่จับ เหล้า, ไม่ใช่ แก้ปัญหา เพราะ คนดื่มเหล้า เมาทุกคน ไปจับคนเมา จึงจับผิดตัว.

 

แต่เหล้า ไม่ใช่คน แล้วจะไปจับใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ คนผลิต! แต่ไล่จับคนขาย ง่ายกว่า จับคนผลิต เพราะ คนผลิตเหล้า ใหญ่กว่า คนจับ

 

มันซับซ้อน ตรงไหน?

 

ขับรถเร็ว จับ คนขับ ก็จับผิดตัวอีกแหละ!
คนขับรถเร็ว เพราะ มีรถเร็ว ให้ (ซื้อ) ขับขี่, มีรถเร็ว ขายในตลาด เพราะ มีคนผลิต, คนผลิต ผลิตรถเร็ว ตาม คำสั่งซื้อ. ... วนไป.

 

พ่อค้าขาย ก็ขายตาม คำสั่งซื้อ
ส่วนผู้ซื้อ ซื้อเพราะมี ของที่ขาย
แล้วผู้ผลิต ก็ผลิตให้ ตามกลไก
รถมันไว ตายหรือไม่ ชั่งหัวมัน.

 

15 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เหตุที่ทำให้ สมน้ำหน้า

 

กฎหมาย ไม่มีคำว่า “สมน้ำหน้า” สำหรับ คนถูกหลอกลวง. คนโลภ มักถูกหลอกลวง โดย คนขี้โกง.

 

กฎหมาย จะปกป้อง “คนโลภตัวน้อย” ไม่ให้ถูก เอาเปรียบ จาก “คนโลภตัวใหญ่” แต่ กฎหมาย ก็ไม่อาจปกป้อง คนโลภ ได้ทุกคน.

 

ดังนั้น, คนโลภ บางคน ที่ถูกหลอก ก็สมควร “สมน้ำหน้า” เพราะ ความโลภ กับ ความโง่ มักเป็น ญาติสนิทกัน.

ตรรกะนี้ ซับซ้อน ตรงไหน?

 

14 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:โง่ ฉลาด ไม่ผิดกฏหมาย

 

ความฉลาด ไม่ทำให้ผิดกฎหมาย,
ความโง่ ก็ไม่ทำให้ผิดกฎหมาย.

 

กฎหมาย เป็น สิ่งดำมืด ที่ทำให้
(1) คนโง่
(2) คนโลภ
(3) คนขี้โกง
(4) คนฉลาด

มองไม่เห็น.

ตราบใด ที่ยังไร้ แสงสว่าง,

 

13 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:วิสัชนา ไปตามกาล

 

มนุษย์ สรรหา ความสะดวกสบาย และ เทคโนโลยี ภายใต้ การเบียดเบียนส่วนอื่นๆ จากธรรมชาติ โดยพยายาม แก้เกี้ยวด้วยวาทกรรมต่างๆ นานา เช่น บริการสีเขียว / ลดโลกร้อน / เพื่อสิ่งแวดล้อม / ฯลฯ.

 

แท้จริงแล้ว วัตถุ วัสดุ ผลิตภัณฑ์ อาหาร ที่มาจาก การแปรรูป ไม่ว่าจะอาศัยเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม, ทุกชิ้น ล้วนแต่ ทิ้งมวลขยะ ซ่อนมลพิษ ไว้ข้างหลัง ไม่มาก ก็น้อย.

 

ไม่ได้ริษยา ในความหรู
ไม่อยากรู้ ว่าหรูเลิศ จากที่ไหน
ไม่อยากตอบ ว่าไม่ชอบ หรืออย่างไร
หรูหรือไม่ ใจร่มสุข ทุกข์พอดี

 

ไม่มีใคร ไม่ทุกข์
ไม่มีใคร สุขทั้งปี
เบื่อหน่าย แค่พาที
ทุกสิ่งมี เช่นนั้นเอง.

 

12 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ปาฏิหาริย์ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ มายากล

 

4 สิ่ง นี้ แตกต่างมากมาย แต่คนไม่รู้ มักจะเหมารวม เป็นสิ่งเดียวกัน.

 

ปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องจริง คนสามารถทำให้เกิดสิ่งนั้นได้. คือ อาเทสนาปาฏิหาริย์ - ทายใจคนอื่น, อิทธิปาฏิหาริย์ - เช่น เหาะ ดำดิน เดินบนน้ำ, อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ - พูดให้คน บรรลุธรรม.

 

ไสยศาสตร์ ปรุงแต่ง เรื่องราว สิ่งของ ให้เหมือนอยู่ใน อำนาจ อิทธิพล ซึ่งเป็น ความเชื่อ พิสูจน์ไม่ได้.

 

โหราศาสตร์ ทำนาย หรือ สังเคราะห์ จากเหตุ ที่เกิดจาก อิทธิพล ของสิ่งที่อยู่ระยะไกล ขนาดใหญ่ คลื่น แรง แสง ที่คนทั่วไป มองไม่เห็น รับรู้ไม่ได้ ด้วยประสาทสัมผัส เช่น ดวงดาว หลุมดำ

 

มายากล เป็นเรื่องจริง ที่ ทำให้ถูกปิดบังไว้ สำหรับนำเสนอ หรือแสดง เพื่อความบันเทิง, มายากล ถูกสร้างขึ้น ภายใต้กฏเกณฑ์ ทางจิตวิทยา.

 

6 เมษายน 2564.

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:สุข ทุกข์ x 2 = 4

 

ความสุข 2 ประเภท
สุขไร้สาระ
สุขเอาสาระ


ความทุกข์ 2 ประเภท
ทุกข์แล้ว ขาดทุน
ทุกข์แล้ว กำไร

 

สุขไร้สาระ เป็นความรู้สึกสุข ที่ยึด อดีต หรือไม่ก็ อนาคต มาเสพ.

สุขเอาสาระ เป็นความรู้สึกสุข ที่มองเห็น ประโยชน์ จากสิ่งที่กำลัง ผัสสะ

 

ทุกข์แล้ว ขาดทุน, เป็นภาวะที่ ...
-รัก ชอบ ใคร สิ่งใดแล้ว พอใจ.
-เกลียด ชัง ริษยา ใคร สิ่งใดแล้ว พอใจ.
-ฟุ้งซ่าน เรื่องใดแล้ว ยุติเรื่องนั้น ไม่ได้.
-ซึมเศร้า หดหู่ แล้ว ออกจากอารมณ์นั้น ไม่ได้.
-มีทางเลือก ให้ตัดสินใจ แต่ไม่เลือก.

 

ทุกข์แล้ว กำไร, เป็นภาวะที่ ...
-ถูกบีบคั้นแล้ว ทนได้ ไม่ยากไม่ลำบาก.
-มี ปฏิกูล เหมือน ไม่มี ปฏิกูล.
-มี อลังการ เหมือน ไม่มี อลังการ.
-มี อัสสาทะ เหมือน มี อาทีนวะ.

 

7 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ปัจจุบันสัมพัทธ์

 

เก็บเวลา ทุกนาที ที่ผ่านพ้น
ตะวันหล่น บนระนาบ ทาบขอบฟ้า
อดีตใหม่ ไม่รอ ขอเวลา
ปรารถนา ปรมัตถ์ ปัจจุบัน

 

อนาคต คือบทบาท วาดจุดหมาย
ปัจจุบัน กลับกลาย สลายฝัน
เพราะเป็นห้วง แห่งกาลรอ เพื่อขอคั่น
อย่ายึดมั่น ปัจจุบัน ว่าเป็นจริง.

 

ทุกสิ่งสรรพ ผ่านกาลเวลาปัจจุบัน ไปปั๊บ กลายเป็น อดีต ทันที. ดังนั้น อดีตเข้าใจตัวเองว่า เสียเปรียบ จึงไม่อยาก อยู่ข้างหลัง. มันจึงเรียก ตัวมันเองว่า “อดีตใหม่” เสมอ.

 

อดีต จึงปรารถนา ที่จะเป็น ปัจจุบัน ตลอดเวลา. และเพื่อให้มั่นใจ มันต้องการเป็น อนาคต อีกด้วย.

 

ซึ่งแท้จริงแล้ว มันไม่รู้หรอกว่า ปัจจุบัน นั่นแหละ คือ ตัวทำลาย อนาคต. เพราะเหตุว่า ปัจจุบัน ไม่มีจริง นั่นเอง.

อย่าไปเสียเวลา กับข้ออ้าง มีสารพัด เพื่อปฏิเสธ ในสิ่งที่ตัวเอง ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น. ยกเว้น ความรู้สึกผิดหวัง หาข้ออ้างได้ยาก ที่จะ ปฏิเสธมัน.

31 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ปัจจุบันสัมบูรณ์

 

อดีต คือ สิ่งที่ต้อง เรียนรู้*
โดยไม่ต้อง จดจำ.
แต่ ...
ปัจจุบัน คือ สิ่งที่ต้อง จดจำ
โดย ไม่ต้องไปเรียนรู้มัน.

 

เรียนรู้ หมายถึง ค้นหาสาเหตุ ที่ทำให้ สิ่งนั้นๆ เกิด เสื่อม และ ดับสลาย, ค้นหาความแปรปรวน ของสิ่งนั้นๆ.
ปัจจุบัน ไม่มีจริง, การจดจำ ปัจจุบัน จึงไม่เกิดขึ้น และไม่มีเวลา ที่จะไปเรียนรู้มันได้.

 

ดังนั้น ความจำได้ทั้งหมดทั้งมวล จึงเป็น ของอดีต ไม่ใช่ ของปัจจุบัน.

 

1 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ริษยา : ความจริง ที่คนอื่นไม่รู้ แต่เรารู้

 

จิตที่ให้อภัยได้ คือ จิตที่ไร้ริษยา.

 

อย่าหวังว่า คนริษยา จะให้อภัยเรา.
และในทางกลับกัน, ถ้าเรา เป็นคนริษยา เสียเอง เราก็จะ ไม่ให้อภัยใคร เช่นกัน.

 

ริษยา ไม่มีเครื่องมือใดๆ จะตรวจจับได้ นอกจาก “ตัวของเราเอง

เมื่อเห็นคนอื่น ดีกว่าตัวเอง ย่อมไม่สบายใจ

นี่แหละ! ริษยาละ.
อภัย เราไม่
สาปแช่ง เราทำ.

 

16 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ฝึกวางใจ อย่างไร

 

ใครจะรักกัน
ใครจะเกลียดกัน
ใครจะฆ่ากัน
ใครจะแต่งงานกัน
ใครจะทำอะไรแก่กันและกัน
ล้วนมี “เหตุปัจจัย” ของทั้งสองฝ่าย.

 

เรา เป็นฝ่ายที่สาม (ผู้สังเกต) ที่อยู่ภายนอก ไม่อาจรู้ซึ้ง ถึงต้นเหตุแท้จริง เหล่านั้น. หากตัดสินใจ ลงความเห็น อย่างใดๆ ย่อมมีส่วนผิดพลาด. อย่างน้อย จิตใจเรา ก็ถูกปั่น หวั่นไหว ไม่สบายใจ สูญเสีย สมาธิ ไปโดยไม่จำเป็น.

 

สัตว์โลก ย่อมน่าสงสาร ทุกตัวตนนั่นแหละ. การปล่อยวางใจ ไม่ใช่ ใจคับแคบ หรือ เฉยชา เย็นชา. แต่คือ อุเบกขา.

 

จงรักษาใจ อย่าอ่อนไหว ไปกับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ ที่มันไหลเข้าสู่ ทวารทั้งหก. เพราะ หลายสิ่ง มันอาจเป็น fake news หรือ แม้จะไม่ใช่ก็ตาม. ปัญหาคนอื่น เราแก้ไม่ได้ เพียงแค่รู้ไว้ เพื่อเป็นโจทย์ ให้เราได้ฝึก “วางใจ”.

 

-จริงใจ ไมตรี สำนึกดี ขอบคุณ-

 

19 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:โอกาส กับ วาสนา ต่างกัน

 

คนดี มีตั้งมากมาย
แต่ไม่ชอบ แสดงตัว
ปล่อยให้ คนชั่ว สำแดงร้าย
บ้านเมืองจึง วุ่นวาย ดั่งนี้ แล.

 

สนับสนุน คนดี ให้มี “โอกาส
ได้ปกครอง บ้านเมือง.
อย่าให้เขารอ “วาสนา” มาเกย.

 

เพราะยุคนี้ วาสนา ซื้อ ขาย กันได้. คนดี จึงไม่ค่อยมี โอกาส ได้ปกครอง บ้านเมือง.

 

วาสนา เกิดจาก คำพยากรณ์ ของ พวกหมอดู และ คำขู่ของ พวกไสยศาสตร์ มนต์ดำ. โอกาส เกิดจาก พลังของมวลประชาชน.

 

18 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ฟุตบอล league

 

ว่าด้วยเรื่อง ฟุตบอล league ในยุคนี้.
ในสนามจริง ก็ไม่ต่างกับ เกมในหน้าจอ. มันไม่ใช่ กีฬา!!

 

ปัจจัย ที่ทำให้ การแข่งขัน ฟุตบอล เปลี่ยนไป เป็น การพนัน คือ การทุ่มเทเงิน ของนายทุน (เจ้ามือใหญ่สุด) ลงไปใน สนามแข่ง.

 

คนดูบอล ถูกหลอก
คนพนันบอล ถูกมอมเมา
นักบอล ถูกว่าจ้าง
กรรมการ ถูกซื้อ

 

ให้เกิดการโกง และ หลอกลวง ให้เกิดขึ้น เป็น กระบวนการ.

 

น่าเสียดาย ที่เราส่งเสริม เยาวชน ให้เล่นฟุตบอล แต่ผลมัน เท่ากับ “เตะ หมู (กีฬา) เข้าปาก หมา (การพนัน)

 

ดังนั้น, จงส่งเสริม เยาวชน ให้เรียนรู้ ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์ ให้มากกว่า กีฬา-การแข่งขัน ในสัดส่วน ที่มากกว่า เข้าไว้. แม้จะได้ ปริมาณ จำนวนคน ที่น้อย แต่จะให้ พลังและศักยภาพ (ในการพัฒนาประเทศ) มากกว่า. ดุจเดียวกับ พลังยึดนิวเคลียส, แม้นิวเคลียส จะมีขนาดเล็กกว่า อะตอม เป็นแสนเท่า แต่กลับมี พลังยึดเหนี่ยว มากกว่า อะตอมทั้งก้อน เป็นล้านเท่า.

17 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ตรรกะ วิปริต

 

-คนวิปริต บอกว่า


“ต้นไม้ที่เกาะกลางถนน ไม่ควรมี เพราะเป็นต้นเหตุ ให้เกิดอุบัติเหตุ รถชนต้นไม้ ตาย”


“ทำไม ไม่ไปจับคนอื่นที่ทำผิด ก่อนจะมาจับผิดผม”


“มึงก็รู้ว่า หลานกูมันเป็นคนเกเร ทำไมไม่ไปเล่นห่างๆ มัน จะได้ไม่ถูกมันไล่ตีหัว” (ผิดที่มึง)

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เหตุผล และ อารมณ์

 

ข่าวจริง
ถูกสร้าง โดยปัญญาชน
ส่งต่อ โดย คนมีเหตุผล
และถูกเชื่อ โดย คนที่รู้จักแยกแยะ ว่านี่ “อารมณ์” หรือ “เหตุการณ์”

 

อารมณ์ มักไร้เหตุผล, ขณะที่
เหตุการณ์ มักไร้อารมณ์.

 

1 กุมภาพันธ์ 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:คนไม่ดี ในสังคมออนไลน์

 

ลักษณะ ของ คนไม่ดี ในสังคมออนไลน์ -

 

(1) พูด ด่า ด้วยถ้อยคำ หยาบคาย/หยาบโลน,

(2) พูด เสนอ เรื่องจริง ให้เป็นเรื่อง โกหก และ สร้างเรื่องโกหก ให้เป็นเรื่องจริง.

(3) ปลุกเร้า อารมณ์ ให้คนอื่นเกลียด ในสิ่งที่ตนเกลียดชัง,

(4) จะไม่มี คำชื่นชมใดๆ ให้แก่ใครๆ ที่ทำดีในสังคม,

(5) ด่า ด้อยค่า สิ่งที่รัฐบาลทำ "ตลอดเวลา" ทุกครั้งที่ออกมาพูด ในที่สาธารณะ,

(6) พูดให้ร้าย สถาบันหลักของชาติไทย. (ชาติ-ประวัติศาสตร์, ศาสนา, พระมหากษัตริย์, วัฒนธรรม-ขนบประเพณี)

 

ลำดับชั้น ของ คนไม่ดี 4 ประเภท ในสังคมออนไลน์ -

 

(1) คนขายชาติ

(2) คนอัปรีย์ จัญไร

(3) คนจิตริษยา (อิจฉา ตาร้อน)

(4) คนโง่ เห็นแก่ตัว

 

อธิบาย -

 

(1) คนขายชาติ คือ คนที่สมควร ถูกขับไล่ ออกไปจาก อาณาเขตประเทศไทย, เพราะเหตุที่ บ่อนทำลาย ความสงบสุข และ หรือ เป็นผู้ "ชักศึกเข้าบ้าน." มีคำเรียกอื่นอีก เช่น ชังชาติ หนักแผ่นดิน โคตรโกง.

มักเป็นคนที่ มีคุณสมบัติ "ลอยนวล" รัฐบาล ไม่สามารถเอาผิด จับกุมได้ง่าย.

 

(2) คนอัปรีย์ จัญไร คือ คนที่กล้าพูด กล้าทำ ในสิ่งที่ คนปกติ สามัญทั่วไป เขารังเกียจ ขยะแขยง และ เป็นอัปมงคล.

มักมีคำอื่น ที่ใช้เรียก คนระดับนี้ หลายคำ เช่น อุบาทว์ ชาติชั่ว ระยำ จังไร ชิงหมาเกิด สัตว์นรก.

 

(3) คนจิตริษยา มักเป็นคนฉลาด มีเหตุผลน่าเชื่อถือ สร้างภาพได้ดี แต่เมื่อเห็นคนอื่น ได้ดีกว่า ตนเองแล้ว รู้สึก ไม่สบายใจ และทนไม่ได้ จึงแสดงออก ด้วยวาจา เหน็บแนม เย้ยหยัน กระแซะ "ตีวัว กระทบ คราด" และ อวดรู้.

 

(4) คนโง่ เห็นแก่ตัว คือ คนมักได้. ถ้าได้ เฉย, ถ้าเสีย ด่า, มักเป็นคน มีเหตุผลน้อย วิสัยทัศน์ สั้น และแคบ.

 

คนทั้ง 4 ประเภท ข้างต้น มีอยู่ในทุกชนชั้น ทุกสถานะ ทุกอาชีพ ทุกระดับการศึกษา แม้กระทั่ง ในพระสงฆ์ นักการเมือง และนักโทษ.

 

29 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:จริต 4 ประเภท ที่ทำให้คนเกลียดกัน ไม่สามัคคีกัน

 

จริต 4 ประเภท ที่ทำให้คนเกลียดกัน ไม่สามัคคีกัน -

 

(1)
กู เกลียด มึง” - เกลียดใครแล้ว ประกาศ แสดงตน ให้สาธารณชนรู้ แล้วรู้สึก สบายใจ.

(2)
มึงเกลียดมัน เหมือนกู กูชอบมึง” - มีใครแสดงตน ตำหนิ ด่าว่า คนที่ตนเกลียดอยู่แล้ว ก็จะสนับสนุน และ ขอคบ คนนั้น เป็นเพื่อน เพื่อความสบายใจ.

(3)
เพราะมึงชอบมัน กูจึง เกลียดมึง” - มีใครแสดงตน รักชอบ คนที่ตนเกลียดอยู่แล้ว ก็จะเกลียด คนนั้น ทั้งๆ ที่ อาจไม่รู้จักกัน เพราะรู้สึกขัดเคืองใจ.

(4)
กูชอบมัน ที่มันก็ เกลียดมึง” - ใครก็ตาม ที่แสดงตนว่า เกลียดเรา ทั้งๆ ที่ เราไม่รู้จักเขา, ก็จะมีคน ที่เกลียดเราอยู่แล้ว กระโดดโลดเต้น สะใจ โดยที่เรา ไม่รู้สึกอะไรเลย.

 

จริต ทั้ง 4 ข้อนี้ มีในบุคคล ทุกชนชั้น วรรณะ คนหัวดำ หัวขาว เด็ก ผู้เฒ่า คนชรา คนตาบอด ทุกอาชีพ ไม่ละเว้น ว่ามีตำแหน่ง สถานะขนาดใด ระดับใด.

 

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า คนที่ถูกเกลียด เป็นใคร

 

ถ้าเป็นคนดี, คนที่แสดงการรังเกียจ ก็เป็นคนไม่ดี ตามหลักเหตุผล. ถ้าเกลียดมาก จะแสดงออกด้วย การด่า ใส่ร้าย อาฆาต มาดร้าย. แบบนี้ก็จัดเป็น พวกภัยสังคม เพราะ เข้าข่าย ยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดการแตกแยก ไม่สามัคคีกัน.

 

แต่ถ้า คนที่ถูกรังเกียจ เป็นคนไม่ดี, ก็ย่อมถูกคนดี ประจาน ถูกเปิดเผยความเลว ให้สาธารณชนรับรู้. คนไม่ดี ก็เดือดร้อน แสดงจริต ทั้ง 4 ข้อ ออกมา ในเชิงลบ.

 

ยกตัวอย่าง ... เอากันที่ชัดๆ เลยนะ.

ผู้อ่านข่าว ช่อง voice TV คนหนึ่ง (ช่องทีวี ของโอ็ค พานทองแท้ ลูกของ 'ทักกี้ โทนี่ หนีคดี' เป็นเจ้าของ) ชอบรายงานข่าว เรื่องราวของชาวบ้าน นายพลมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจ ในเมียนมา และแสดงความโหดเหี้ยม อำมหิต ราวกับว่า ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ (แต่ความจริง หัวหด) รายงานไปเพื่อ ประชดประชัน กระทบ และให้ร้ายแก่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ยึดอำนาจ จากตระกูลชินวัตร กลุ่มคนขี้โกง คิดล้มเจ้า เป็นการ “ตีวัว กระทบ คราด

 

อาการแบบนี้ เรียกว่า “กู เกลียด มึง” (1)

 

อีกตัวอย่าง, อาจารย์พิชาย แห่งนิด้าวันนี้ กับ อาจารย์พิชาย วันก่อน ไม่เหมือนกัน คือ เปลี่ยนไป. แสดงตำหนิ คัดค้าน การใช้อำนาจเผด็จการ ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี. ชั่งถูกอกถูกใจ ฝ่ายแค้น ที่เกลียดรัฐบาล เป็นทุนเดิม อยู่ก่อนแล้ว, จึงสรรเสริญเยินยอ อาจารย์พิชาย อย่างออกหน้าออกตา ผ่านช่อง voice TV.

 

อาการแบบนี้ เรียกว่า “มึงเกลียดมัน เหมือนกู กูชอบมึง” (2)

 

ตรวจดูซิว่า เราจัดอยู่ในกลุ่มคน 4 ประเภทนี้ มาก น้อย แค่ไหน? แต่ถ้าตรวจแล้ว รู้สึกว่า ไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องตรวจ แต่เราอาจ เข้าข่าย คนริษยา.

 

สำหรับผมแล้ว ผมเกลียด พวกโกหก ตอแหล นักการเมือง 'ขี้โกง' ข้าราชการ 'กร่าง' และพวก สมคบคิดล้มล้างสถาบัน, จะเผด็จการ หรือ ประชาธิปไตย ไม่สำคัญ สำคัญที่ อย่าโกง อย่าละเมิดกฎหมาย อย่าเป็นคนอกตัญญู.

 

ชัดเจนนะ

 

7 มิถุนายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ย้ายประเทศกันเถอะ

 

ย้ายประเทศ กันเถอะ ...
จะย้ายไปไหน? ถามจริง.

 

สงสารจัง นั่งก็ทุกข์ นอนก็ทุกข์
เลยรีบลุก ปลุกเพื่อน ให้เคลื่อนไหว
ก่อนถูกจับ ปรับติดคุก แก่ก่อนวัย
จึงต้องหา ที่หลบภัย ในต่างแดน

 

เฮ้ย! เฮ้ย! เฮ้ย! เฉยไม่ได้ นะตอนนี้
พวกเรามี คดีอยู่ กูมีแผน
ย้ายประเทศ อันต่ำตม ให้สมแค้น
สยามแลนด์ แสนห่วย ซวยจริงจริง

 

คนที่เกลียด รัฐบาล (เกลียดจริงๆ),
คนที่ถูกยุ ให้เกลียด รัฐบาล,
คนที่ทำที เกลียด รัฐบาล เพื่อเอาใจ อีกคนหนึ่ง,
คนที่แกล้งทำเป็น เกลียด รัฐบาล เพื่อไม่ให้ตกยุค,

 

คน 4 ประเภทนี้ ใช่ไหม ที่ต้องการย้ายประเทศ.

 

ขอบอก ... อย่าเลย ประเทศไทย ดีที่สุดแล้ว

-ใช้เสรีภาพ เกินขอบเขต ก็ได้
-ด่าคนที่ไม่ชอบใจ ก็ได้
-อ้างสิทธิมนุษยชน เพื่อคุกคามใคร ก็ได้
-เรียกร้อง ประชาธิปไตย โดยไม่เคารพสิทธิคนอื่น ก็ได้
-โง่ แล้ว อวดฉลาด ก็ได้
-ด่านายกรัฐมนตรี ได้ทุกเวลา ที่อยากด่า
-ละเมิดกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ทำได้
-ขู่เข็ญ ศาลยุติธรรม ก็ได้

 

ประเทศไทย ศิวิไลซ์ ถึงเพียงนี้ ยังจะย้าย อีกรึ?

 

เอ๊ะ! รึว่า แค่พูดแก้เกี้ยว เพื่อหาที่ลี้ภัย ก่อนที่จะ ถูกไล่ฟ้อง รายตัว.

 

4 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:วาจา ส่อ ความจริงใจ นิสัย ส่อ สันดาน

 

วาจา ส่อ ความจริงใจ
นิสัย ส่อ สันดาน

การรวบอำนาจ ของ นายกฯ ในการจัดการ โควิด หนนี้,

 

คนเชียร์ บอกว่า เสี่ยง.

คนชัง บอกว่า เผด็จการ.

คนเป็นฝ่ายค้าน บอกว่า สืบทอดอำนาจ.

คนทำงานในภาคสนาม บอกว่า สนับสนุน มาถูกทางแล้ว.

นักเที่ยว-เดินทาง บอกว่า จะทำอะไร ก็ทำเถอะ แต่อย่า LOCK DOWN ก็แล้วกัน.

นักพนัน-ซ่องโลกีย์ บอกว่า ละเมิดสิทธิ ส่วนตัว.

 

นักการเมืองอุบาทว์ชาติชั่วเลวระยำต่ำช้ากากสถุลอัปรีย์จังไร บอกว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิมนุษยชน อ้างโรคระบาดเพื่อรวบอำนาจ ล้มเหลวในการบริหารประเทศ ทำให้ เศรษฐกิจต่ำสุด หนี้สินมหาศาล คนตกงานทั้งประเทศ ติดโควิดกันระนาว ฯลฯ (สารพัด คำก่นด่า)

 

พลเอกประยุทธ์ แม้พูดจาแบบ ขวานผ่าซาก แต่นั่นคือ "ความจริงใจ" ที่จริง พูดผ่าลงตรงกลางหัวจิตหัวใจ พวกริษยา พวกคนขี้โกง อันธพาล ต่างหาก.

 

เคยได้ยินไหม :
-ปากร้าย ใจดี (ที่จริง ร้าย สำหรับบางคน)
-ปากดี ใจคต (ที่จริง ปากร้าย - ปากพล่อย)
-ตดคนอื่น เหม็นไปทั่ว ตดของตัว ไม่เป็นไร

 

คนจริงใจ คนทำงาน เขาไม่อดทน ขนาดนี้ ได้นานหรอก ถูกด่าทุกวัน แต่ก็ยังสู้ ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้โกงกิน เหมือน นายกรัฐมนตรี ในอดีต.

 

ยังทนอยู่ได้! หินจริงๆ

 

นี่แหละ นิสัย ส่อ สันดาน ละ, นิสัย ที่ไม่ชอบ เอาเปรียบ คนอื่น แค่นี้ ถือว่า เป็นสมบัติพื้นฐาน ของนักการเมือง ที่ดี และหาได้ยาก ในเวลานี้.

 

นิสัย ยังไม่แน่นหนา เท่า สันดาน. ไม่เอาเปรียบ คนอื่น ให้โอกาส คนอื่นเสมอ คนเรา ทำผิด กันได้ และก็แก้ตัวใหม่ได้, ไม่มีใคร ผิดตลอดชาติ และก็ ไม่มีใคร ถูกทุกเรื่อง ตลอดไป.

 

นี่ถ้า พลเอกประยุทธ์ มีนิสัยสันดาน เผด็จการจริง ไอ้พวก คนเลว นักการเมืองเลว คงไม่มีโอกาส ไม่มีเสรีภาพ (แบบสุดโต่ง) ได้แหกปาก ด่าใครๆ ได้อย่างอิสระ แบบนี้หรอก.

 

ถ้าเป็นแบบนั้นนะ คนดีๆ ก็จะเดือดร้อน เอาโควิด ไม่อยู่ ประเทศไปไม่รอด เสร็จพวกจรรดินิยม อเมริกา แน่นอน.

พวกปากเน่า ปากเหม็น คงไปห้าม ไม่ได้หรอก ประเดี๋ยว จะลงแดงตาย ถ้าไม่ได้พูด. แต่หมู่คนดี นี่แหละ จะสามัคคีกันให้มาก ด้วยการ งดส่ง ข่าวเท็จ งดแชร์ ข่าวปลอม พูดให้กำลังใจ คนทำงาน.

 

ขอเป็นกำลังใจ ให้คนทำงานภาคสนาม ทำงานสาธารณะ จิตอาสาประชาชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อสม. พยาบาล แพทย์ ส.ส. ส.ว. รมต. นักบวชทุกศาสนา และ ประชาชน ทุกผู้ทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจ สู้ภัยโควิด ไปด้วยกัน.

 

ประเทศไทย ต้องชนะ.

 

28 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ปรุง สีงา บ่นให้ฟัง

 

ย้อนหลัง บรรพบุรุษ ไป 7 โคตร (โคตรพ่อโคตรแม่) จะรู้สึกอย่างไร เมื่อมัน ทำตัวเป็น สื่อมวลชน อีแอบ. ที่จริง อย่าเรียกว่า สื่อ, แต่ควรเรียกว่า พวกเปรตสุมหัว. คนพวกนี้ มอง ทุกๆ เหตุการณ์ ทุกๆ สถานการณ์ ในมุมลบ ตลอดเวลา ที่แหกปากพูด เหมือนพ่นลม ออกจากตูด.

 

พวกคุณ (มึง) ใช้เวลาทั้งหมด ไปกับการ ด่ารัฐบาล ด่าหมอ และ ด่าทุกๆ คน ที่ทำไม่ถูกใจ ของพวกมึง, ราวกับว่า สิ่งที่มึงพูด ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ และ สิ่งที่รัฐบาลทำ หรือ คนอื่นทำ ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์.

 

พวกมึง มองไม่เห็นเลยหรือว่า คนทำงาน ย่อมมี ทั้ง ถูก และ ผิด ผสมกันไป. แล้วมึง ด่ากราดว่า เลว ชั่ว ไปเสียทั้งหมด.

 

ผมฟังแล้ว รู้สึกเสนียดรูหูเหลือเกิน. ไม่ใช่ว่า ผมจะชอบ จะเชียร์ รัฐบาล ไปเสียทุกเรื่อง. เรื่องชั่วๆ หมกเม็ด กลิ่นเน่าๆ ของนักการเมือง (นักการเมือง น้ำเน่า ที่สอบได้) ที่เข้ามาเป็น อีแอบ ในรัฐบาล ก็เยอะ, เพียงแต่ว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ เอาอยู่ เท่านั้นเอง.

 

คนดีๆ ที่เต็มใจ ทำงาน ให้ส่วนรวม (โดยจะหวัง สิ่งตอบแทน หรือไม่ ถือเป็นเรื่องปกติ) ย่อมเป็นจุดเด่น เหมือน ดาวบนฟ้า คนสังเกตเห็นได้ง่าย. ทำผิดพลาด นิดๆ หน่อยๆ พวกผีเจาะปาก ก็จะพากันด่า ด่า ด่า สาดเสีย เทเสีย ราวกับว่า ถ้ามึงเข้าไปทำ เหมือนเขาแล้ว จะไม่มีผิดพลาดเลย.

 

ไอ้พวกเวร!!

 

พลเอกประยุทธ์ เคยไปปล้น โคตรพ่อโคตรแม่อะไร ของพวกคุณ อย่างนั้นหรือ? ถึงได้ จงเกลียด จงชัง หรือไม่ก็จะ ลงแดงตายห่า ตายโหง ไปในบัดดล ถ้าไม่ได้ด่า ออกอากาศ. หรือไม่ก็ ขอให้เหน็บแนม สักหน่อย.

 

นิสัยแบบนี้ เขาเรียกว่า ตอแหล!

 

นี่ถ้า พลเอกประยุทธ์ เป็นพ่อแม่ของพวกคุณ ยังจะด่าอีกไหม? ถ้าสมมุติ ทักษิณ เป็นโคตรเหง้าศักราช ของพวกคุณ มันจะชั่วช้า เลวทราม แค่ไหน พวกมึง ก็คงละเว้น เห็นเป็นเทวดา อย่างนั้นละสิ!

 

พวกมึง อย่ามาอ้างว่า ทียิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ทำไมคนไทย ด่าได้ ด่าดี ว่าจาดง่าว ว่าอีโง่ ว่าสารพัด ... แล้ว ประยุทธ์ ดีแค่ไหน “กูจะด่า ไม่ได้ ห๊า!”

 

ตราบใด ที่พวกคนโง่ แบบพวกคุณ ไม่สามารถ ก้มหน้า แล้วอมหัวแม่ตีน ของตัวเองได้, นั่นแหละ คือ พวกคุณ ไม่อาจรับรู้ รสชาติ ความต่ำช้า อัปรีย์ จังไร ของพวกมึงได้.

 

พวกมึง เข้าใจบ้างไหม?

 

พวกคุณ ไม่มองมุมดี ไม่มองมุมที่เขาทำดี ทำสำเร็จ, มึงก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้รึ?

 

ผม ไม่ใช่แค่ รู้สึกรำคาญ, แต่มองลึก ไปกว่านั้น. คนพวกนี้ กำลัง ใช้ช่องทาง “สื่อสารมวลชน สาธารณะ” (public communication) เป็นสถานที่ แสดงนิสัย สันดาน อิจฉา ริษยา นินทา ใส่ลงไปใน สังคมไทย.

 

ทำซ้ำๆ ย้ำ ทุกวัน ทุกนาที นานหลายปี,

 

(1) ฉุดรั้ง ให้ตัวเองตกต่ำ ริษยา โง่ อัตตาจัด. ผมว่า พวกมันก็รู้ ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่เพราะ ความเกลียดชัง ความโลภ และ ความโง่ จึงยอมทำ ในสิ่งที่ ขัดต่อความรู้สึกของคนไทย ขัดต่อความชอบธรรม และกฎหมาย.

 

(2) ล้างสมอง. ใส่มุมมองผิดๆ ใส่เรื่องโกหก ให้คนฟัง ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ให้ มีนิสัยสันดาน แบบตัวเอง.

 

(3) ทำตัวเป็น ขยะทางปัญญา อ้างตัวเลข สถิติหรูๆ ทำให้คนฟัง สับสน ย้อนแย้ง.

 

(4) ไม่รับผิดชอบ คำพูดของตัวเอง. ปลุกกระแส เกลียดชัง คนอื่น ตลอดเวลา ที่มันหายใจ, สร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิด ความรุนแรง แต่พอเวลาผ่านไป คนเขารู้ทัน คนพวกนี้ เป็นพวกรับจ้าง จึงไม่เอาด้วย. พอเหตุการณ์ สงบลง ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ. พวกมึง ก็เฉย ไม่ขอโทษ, กลับหาเรื่องอื่น ด่าซ้ำ วนไปเรื่อยๆ. ไม่รับผิดชอบ ในความเลวระยำ ของตัวเอง.

 

แม้ว่า พวกสื่อผีเปรต มันจะสร้าง ความรำคาญ ให้แก่รัฐบาล และคนที่ทำงานอุทิศตน ให้สาธารณะ แต่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ไม่ควรมองข้าม. อย่าเห็นแค่ เป็นพวกแมลงสาป แมลงวัน คนพวกนี้ ไม่ต่างอะไรกับ เชื้อโรค.

 

กำจัด ด้วยวิธีใดได้ ก็รีบๆ ทำเถอะ

 

ขออนุญาติด่า เต็มๆ สักวันเถอะนะ ครับ.

 

24 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ทุกข์ 4 แบบ

 

ทุกข์ มี 4 ทุกข์


1. มองไม่ทะลุ
2. สละไม่ลง
3. แพ้ไม่เป็น
4. ปล่อยวางไม่ได้

 

ความแก่ เจ็บ ตาย..นั้น
..เป็นเรื่องธรรมดา..
บุคคลใดเข้าใจหลักศาสนา
บุคคลนั้นย่อมเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา

 

3 กันยายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ยา 4 ขนาน รักษา โรคจิตใจแปรปรวน

 

เมตตา
— เป็นยาสามัญประจำตัว ที่ทุกคนต้องมีไว้,


ปล่อยวาง
— เป็นยาชา ใช้เพื่อให้เรามีเวลาคิด วิเคราะห์ หาเหตุผล สรุปผล,


อดทน
— เป็นวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันอารมณ์เสีย อาละวาด ฟาดงวงงา,


อหิงสา
— เป็นยาแรง เมื่อเจอคน อารมณ์คนที่ควบคุมไม่ได้ ไร้เหตุผล.

 

30 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:กลไกชีวะ (alive mechanics) : ระบบชีวิต 4 แบบ

 

(1) ระบบชีวิต จักรวาล-ควอนตัม
(2) ระบบชีวิต จักรกล-หุ่นยนต์
(3) ระบบชีวิต แบบโลก
(4) ระบบชีวิต ขันธ์ห้า

 

ชีวิตจักรวาล-ควอนตัม อธิบายการมีอยู่ และความสัมพันธ์ ของสิ่งที่มีขนาด ระยะ ปริมาตร น้ำหนัก มิติ ใหญ่มากๆ (จักรวาล กาแล็กซี่) กับ เล็กมากๆ (อะตอม อนุภาค).

ชีวิตจักรกล-หุ่นยนต์ อธิบายสิ่งที่เป็นกลไก ที่ถูกควบคุม ด้วยโปรแกรม คำสั่ง.

ชีวิตแบบโลก อธิบายความเปลี่ยนแปร องค์ประกอบ ของโลก (blue earth) ในยุคต่างๆ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน.

ชีวิตขันธ์ห้า อธิบายการเกิด การเสื่อม ความแปรปรวน และการดับสลาย ของสัตว์ 5 สถานะ คือ นรก เดรัจฉาน เปรตวิสัย มนุษย์ และ เทวดา.

 

.2563

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:สัญญะ 4 อย่าง ของ คนบริสุทธิ์

 

คนบริสุทธิ์ ไม่ใช่คนที่ ศาลตัดสิน ยกฟ้อง และเอาผิดไม่ได้, ไม่ใช่คนผิวขาว, ไม่ใช่คนถือพรหมจรรย์, ไม่ใช่คนที่ทำหน้าที่สั่งสอน.

 

แต่ เป็นคนมี เจตนา ให้คนอื่น พ้นทุกข์ และ อยู่เป็นสุข (เมตตา), เป็นผู้มีสัญญะ 4 อย่าง คือ

โปร่งใสด้วยใจ,

สะอาด ด้วยกาย,

สุภาพ ด้วยวาจา,

สุขอนามัย ด้วยอากัปกิริยา.

 

31 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ความคิด ความรู้

 

ความคิด ...
เป็นทั้งมิตรและศัตรู

ความรู้...
เป็นทั้งครูและเพื่อน

ความรู้ที่บิดเบือน ...
เสมือนโจร ที่แฝงตัว

ความรู้ดี รู้ชั่ว ...
เป็นสุดยอด ของ
ความคิด-ความรู้

 

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:เกียรติ กับ หน้าที่

 

“จงให้เกียรติ
คนที่ให้เกียรติเรา
แคร์ คนที่แคร์เรา
นอกนั้น อย่าไปใส่ใจ”
(f page : สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก)

 

มองคนละมุม

 

ความคิดนี้ ยกเว้น ครู กับ หมอ. ครู กับ หมอ ต้องแคร์ ทุกคน, และคิดเสมอว่า คนเรา ไม่ได้เลว ตลอดกาล. และคนที่เราคิดว่าเลว อาจแพร่เชื้อเลว เชื้อโรค สู่คนอื่นได้.

 

ถ้าครู กับ หมอ ไม่ใส่ใจ พวกเขา แล้วใครจะทำ, เพราะต่างก็ ไม่มีใครเอาภาระ กลายเป็นปัญหาสังคม.

 

1 กันยายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:รวย จน ตาย

 

จะ จน ก็ต้องตาย
จะ รวย ก็ต้องตาย
แล้วจะเหยียดหยามกันทำไม!!
ในเมื่อสุดท้าย ทุกคนต่าง ก็ต้องตาย เหมือนกันหมด

(ว.กนฺตวีโร)

 

มองคนละมุม

เหยียดหยาม กับ ตาย มันไม่เกี่ยวอะไรกัน.


การเหยียดหยามกัน ด้วยฐานะ จน - รวย นี่แหละ ใครๆ จะทำได้ ก็ต้องทำ ก่อนตาย นี่แหละ. ถ้าตายไปแล้ว จะมีใครอยู่ ให้เหยียดหยาม กันเล่า!

 

แท้จริงแล้ว คนเรา เหยียดหยามกัน เพราะ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน. นั่นคือ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ใน “อิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท-อริยสัจสี่

15 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:สิ่งที่ควบคุมไม่ได้


เราควบคุม
2 อย่างนี้ ไม่ได้
“อดีต”
“อนาคต”
ที่ควบคุมได้คือ “ปัจจุบัน”
อย่าลืมทำมันให้ดีที่สุด!!

(จาก โอวาทธรรม ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เพจ Nippaan.org
@roadtonippaan)

 

มองคนละมุม

 

เราควบคุม 3 สิ่งนี้ ไม่ได้,
เกิด แก่ ตาย
เพราะ เวลา เป็นสิ่งไม่เที่ยง มันไหลไป พาวัฏจักร เกิด แก่ ตาย ไปกับมันด้วย.

 

ดังนั้น ไม่ว่า จะอยู่ในกาลใด อนาคต ก็ดี, อดีต ก็ดี, ปัจจุบัน ก็ดี
จงมีสติ อยู่กับ กาย
จงมีสติ อยู่กับ เวทนา
จงมีสติ อยู่กับ จิต
จงมีสติ อยู่กับ ธรรม.

 

14 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:กิจของสงฆ์ กิจของทหาร

 

“ถ้าหากการเมือง
ไม่ใช่กิจของสงฆ์
การบริหารประเทศ
ก็ไม่ใช่กิจของทหาร”
(พระมหาสมปอง)

 

มองคนละมุม

 

การเมืองน้ำเน่า (ประชาธิปไตย ตอแหล) ไม่ใช่กิจของสงฆ์, ถ้าพระสงฆ์ เข้าไปยุ่งเกี่ยว ประพฤติตน รับใช้ การเมืองน้ำเน่า, สงฆ์ ก็เน่าไปด้วย. เป็นกิจข้อห้าม เทียบเท่ากับ ห้ามพระเล่นตลก (พระสงฆ์สาวก มีหน้าที่ นำเอา คำของพระศาสดา ของตน มาเผยแพร่ มิใช่ตั้งตนเอง เป็นศาสดาโจ๊ก)

 

การบริหารประเทศ เป็นกิจของทหาร ที่ต้อง รักษาเอกราช ของประเทศ, ป้องกัน นักการเมืองชั่ว ทุจริตคอรัปชั่น อันเสมือน ศัตรูภายใน. เป็นภารกิจ เทียบเท่ากับ การป้องกัน ศัตรูภายนอก มารุกราน.

 

12 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ลงมือทำ คนละแบบ จึงต้อง ตัดสิน กันที่ ผล

 

คิดลบ -

“ชีวิตคนเรามันสั้น
จงทำในสิ่งที่ชอบ
ไม่ต้องรับผิดชอบ ในสิ่งที่ทำ,
เพราะ อดีต กับ ปัจจุบัน
มันคนละเวลากัน”

 

คิดบวก +

“ชีวิตคนเรามันสั้น
จงทำในสิ่งที่ชอบ
และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เพราะ อดีต กับ ปัจจุบัน
มันห่างกัน แค่วินาทีเดียว”

 

1 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:จำเป็นต้องเป็น ค น ดี ในสายตา ของ คนอื่น?

 

แม่เคยบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็น “ค น ดี” ในสายตา ของ คนอื่นหรอก แค่ตัวเองรู้ว่า ตัวเองดี ก็พอแล้วล่ะ.
(ว.กนฺตวีโร)

 

มองคนละมุม

 

แต่ แม่คะ!

ยุคนิวนอม่อน ที่มีคนเชื่อ ข่าวสารออนไลน์ มากกว่า คำของแม่.


แค่รู้ตัวเองว่า ตัวเองดี ยังไม่พอค่ะ. เพราะ ยุคนี้ ไม่มีใคร ยอมรับหรอกว่า ตัวเอง เป็นคนไม่ดี.

 

เราจำเป็น ต้องเป็น “ค น ดี” ในสายตา ของ คนอื่น ที่ทำตัวเลวๆ ด้วย, เพื่อว่า ความดี จะได้ไปถ่วงดุล ความเลว ของคนพวกนั้น ไงคะแม่.

 

สังคมเลว เพราะ คนดี ท้อแท้ ที่ไม่แสดง บทดี ให้คนเลวเห็น เพื่อให้ คนเลว รู้ว่า “มึง! อย่านะ กูจ้องมองดูมึงอยู่

 

คนดี อาจแพ้ เพราะ ต่างคนต่างแยกกันอยู่ (ดีกันคนละมุม), ขณะที่ คนเลว มันกำลัง รวมตัวสุมหัวกัน ทำชั่ว อยู่ตลอดเวลา.

 

ลองคิดดูนะ แม่ ... พวกคนไม่ดี อย่างพวกชูสามนิ้ว-สามกีบ-ก้าวไกล, มันเอาคำสอน ของแม่ไปใช้ เลยทำให้ พวกมัน เข้าใจว่า ตัวเอง เป็นคนดี ก็เลยไม่จำเป็นต้อง “ทำดี” ในสายตา ของ คนอื่น, แค่รู้ว่า ตัวเองดี ก็พอแล้ว ... ตามที่แม่สอนไง.

 

แม่ขา ... หนูต้องขอโทษ ที่โต้เถียงคำสอนของแม่. ไม่ใช่หนู คิดเนรคุณแม่ หรือดื้อรั้นหรอกนะ. แต่ คำของแม่ พูดไม่หมด ทำให้มีช่องโหว่ เปิดทางให้คนไม่ดี เอาไปแอบอ้างได้จ้ะ.

 

รักแม่ นะจ้ะ
จาก ... ลูกน้อย หอยสังข์

 

22 กุมภาพันธ์ 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


เกลือหวาน น้ำตาลเค็ม

 

ในเกลือ ไม่มีทางหวาน
ในน้ำตาล ไม่มีทางเค็ม
ทำชั่ว ไม่มีทางได้ดี
ทำดี ไม่มีทางได้ชั่ว
ทุกสิ่งทุกอย่าง
มีเหตุและต้องมีผล

(กนฺตวีโร ภิกขุ)

มองคนละมุม

ในเกลือ มีความหวาน 0%
ในน้ำตาล มีความเค็ม 0%

ทำชั่ว บางกรณี ก็ยังได้ดีอยู่ หากความชั่วนั้น มีปริมาณเป็นสัดส่วนเศษเสี้ยว เมื่อเทียบกับ ความดีท่วมท้นในอดีต. ดุจเดียวกับ การโยนเกลือเม็ดเดียว ลงไปในแม่น้ำคงคา ไม่ทำให้น้ำ ในแม่น้ำเค็มได้.

ทำดีเป็นปกติ สะสมไว้ในอดีต ก็อาจตกนรกได้ ถ้าก่อนตาย ปล่อยให้จิตอกุศล พยาบาท เบียดเบียน เข้าจู่โจม.

ทุกสิ่งทุกอย่าง มีเหตุและปัจจัย อาศัยกันและกัน เกิด-ดับ. ไม่มีใคร หรือสิ่งใด ชั่วถาวร หรือ เลวถาวร. ในดีมีชั่ว ในชั่วมีดี ผสมปะปนอยู่ ตามเหตุปัจจัย ไม่มีใคร หรือ สิ่งใด เป็นเจ้าของ ดี หรือชั่วนั้น.

 

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:ผมมองเห็นสิ่งนี้ ในกลุ่มเบาะแส

 

เบาะแส อาคาเดมี่ จะมีส่วนร่วม
พัฒนาการศึกษาไทย คนไทย ...
ด้วยการ สร้างฐานสมาชิก
ให้มีวิสัยทัศน์ 4-มิติ (มองลึก มองไกล มองกว้าง มองอดีต เห็นอนาคต กำหนดปัจจุบัน)

1. ฐานนักปราชญ์-ปรัชญา (เบาะแสเมธี)
2. ฐานนักประดิษฐ์-ปฏิบัติ
3. ฐานนักวิเคราะห์-วิจัย
4. ฐานนักสื่อสารข้อมูล

ตัวหลักสูตร เนื้อหา จะใช้ในฐาน 2. (ซึ่งได้รับการกลั่นกรอง จากฐาน 1.) และจะถูกต่อยอดต่อผล และวัดผลสำเร็จ โดยฐาน 3. สุดท้าย ผลงาน ผลปฏิบัติ ทั้งหมด จะถูกถ่ายทอด โดยฐาน 4.

ห้องเรียน ไม่มีข้อจำกัดเรื่อง
-สถานที่ (ห้องเรียนออนไลน์)
-เวลา (เรียนได้ ตลอดเวลา)
-เนื้อหา (แบ่งปัน หลากหลาย)*
-เพศ วัย ของผู้เรียน ยึดหลัก วุฒิภาวะ ที่เข้าเกณฑ์ (วุฒิภาวะทางอารมณ์, สังคม, ศีลธรรม)

*เนื้อหา ไม่ถูกจำกัดจาก สกอ. แต่ถูกควบคุมด้วย หลักศีลธรรมของศาสนา.

เกณฑ์วัดผล ใช้วิธี ประเมิน จาก 4 ด้าน (4 ฝ่าย) คือ ผู้เรียนด้วยกันเอง, ผู้ให้ความรู้ (ครู), คณะเมธี, สังคมแวดล้อม. หลักเกณฑ์นี้ ประยุกต์มาจาก บ-ว-ร. บ้าน วัด โรงเรียน. สังคมแวดล้อม=บ้าน, คณะเมธี=วัด, ผู้เรียนด้วยกันเอง และ ผู้ให้ความรู้=โรงเรียน.

26 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 

:สิ่งนี้ ชัวร์เหรอ? - ขอให้ ทุกวัน เป็นวันดี.

ขอให้ ทุกวัน เป็นวันดี ของชีวิต
ขอให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยรักษา
ขอให้สุข ทุกสลาย ไร้โรคา
ขอให้ตื่น ขึ้นมา อารมณ์ดี.

 

หรือว่า ... สิ่งนี้ ชัวร์กว่า!

อ้อนวอนขอ วันดี ให้ชีวิต
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสกให้ ไม่หายหนี
หากคำขอ เป็นจริง ดั่งวจี
คงไม่มี ใครเสื่อม ในสกล

 

เกิด มี แล้ว ย่อมเสื่อม ยุบสลาย
จักมั่นหมาย ยึดไว้ ก็ไร้ผล
สุขที่เห็น เป็นเพียง มายากล
อย่าสับสน เห็นสุข บังทุกข์เลย.

 

27 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


: ท่านทราบหรือไม่ว่าเทวดา อยากฟังธรรม (สวด สาธยาย) ของใคร?

 

เทวดา ชอบฟัง คำของ ตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มากที่สุด. เพราะ มีเพียง คำตรัสรู้ ของ พระองค์ เท่านั้น ที่จะทำให้ เทวดาเหล่านั้น พ้นทุกข์ และ บรรลุธรรมได้. ดังนั้น บทสวด มี่ท่านใช้ ท่านสวด บทของใคร. ถ้าไม่ใช่ คำตรัสรู้ ของพระศาสดา เทวดาจะฟังรึ! เกรงจะเสียเวลาเปล่า.

บท คำตรัส ที่ตถาคต พูดบ่อยมากที่สุด คือ อิทัปปัจจยตา, ปฏิจจสมุปบาท, อริยสัจสี่.

มีผู้แชร์ คำพูดของ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ความว่า “หนึ่งสิ่ง ที่ไม่มีใครทำแทนเราได้ คือ การตั้งใจ ที่จะมีชีวิต ที่เป็นอิสระจาก ทุกข์”

ขออธิบาย สาธยาย ความว่า ทุกข์ เพิ่มอีกสักหน่อย.

เราไม่มีวัน จะได้เป็นอิสระจาก ทุกข์ ได้เลย. เพราะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นคือ ก้อนทุกข์ เห็นๆ ชัดๆ ที่มันจะอยู่กับเรา ไปจนตาย. ตราบใด ที่เราไม่เข้าใจ ไม่รู้จักแยกแยะ “ทุกข์” ได้ถูกตัวถูกตน แล้วละก็ ตราบนั้น เราก็ไม่อาจเป็นอิสระ จาก ทุกข์ นั้นได้เลย.

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็น ธรรมชาติ ที่มีอยู่ เช่นนั้นๆ. มันกับเรา เป็นคนละส่วนกัน. แต่เราต่างหาก ที่ไปยึด ครอบครอง เอามาเป็นของตน ผู้ครอบครอง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้น จึงได้ชื่อว่า "สัตว์" นั่นอย่างไรเล่า.

ก็ในเมื่อ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันคือ ก้อนทุกข์ แท้ๆ แล้วเรา จะเป็น อิสระ จากมัน ได้อย่างไร? ตถาคต ได้บอก "ทาง" ให้แล้ว ในการทำลาย ขันธ์ทั้งห้า (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ซึ่งเป็น กองทุกข์ ในขณะที่ เรายังต้องอาศัย ขันธ์ห้า เพื่อยังชีวิต ต่อไป. (ทำลาย ขันธ์ ไม่ใช่ ให้ฆ่าตัวตาย)

ทาง (มรรคา) ที่ว่านี้ คือ การตัดรอบ การเกิด ของ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง.

โปรดศึกษาและปฏิบัติ ปฏิจจสมุปบาท ด้วยตนเอง ใน พุทธวจน. แล้วท่านจะเป็นอิสระ จาก “ทุกข์” ตามที่ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ยกวจนะ ขึ้นมา.

 

ยามเจ็บไข้ ใช้ได้ผล
ไม่ใช่กล หลอกเล่น ให้ตลก
เป็นข้ออรรถ ตรัสไว้ ให้สาวก
ป้องจิตตก ผกสู้ โรคายัง

 

เบญจขันธ์ มันเอียง ไม่เที่ยงแท้
เบญจขันธ์ มันก็แค่ เป็นทุกขัง
เบญจขันธ์ มันเป็น สิ่งผุพัง
เบญจขันธ์ มันเป็นดั่ง อนัตตา

 

เบญจขันธ์ มันเป็น เช่นนั้นหละ
"เนตัง มะมะ" มิใช่ของ เราหรอกหนา
"เนโสหะ มัสสมิ" นั่นก็ใช่ จะเอามา
ยึดเป็นของ ของข้า ไม่บรรเทา

 

"น เมโส อัตตา" อย่ายึดมั่น
ขันธ์ห้านั่น มิใช่ ตัวเราเขา
วางเสียได้ โรคร้าย ในกายเรา
จักบรรเทา เจ็บสาหัส ในบัดดล.

 

คาถาเต็ม:

 

อิมัส๎มิง สะติ อิทัง โหติ
- เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี

อิมัสสุปปาทา อิทัง อุปปัชชะติ
- เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น

อิมัส๎มิง อะสะติ อิทัง นะ โหติ
- เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี

อิมัสสะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌะติ
- เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป.

 

สัพเพ สังขารา อนิจจา,
สัพเพ สังขารา ทุกขา,
สัพเพ ธัมมา อนัตตา.

สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง,
สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์,
ธรรมทั้งหลาย มิใช่ตัวตน.

 

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เป็นสิ่งไม่เที่ยง,
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็น ทุกข์,
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็น อนัตตา.

 

สิ่งใด เป็น อนัตตา สิ่งนั้น คือ
เนตัง มะมะ; นั่นไม่ใช่ ของเรา,
เนโสหะ มัสสมิ; นั่นไม่ใช่ เป็นเรา,
น เมโส อัตตา; นั่นไม่ใช่ ตัวตนของเรา.

จบ.

 

เมื่อสิ่งนี้มี - ปล่อย คลาย ปล่อย ว่าง ปล่อย วาง
สิ่งนี้ ย่อมมี - อุเบกขา ในเวทนา.

ให้นำบทสาธยายธรรม บทนี้ ให้คนป๋วย ฟังตลอดเวลา ซ้ำไปซ้ำมา อย่าหยุด.

รัก สัทธา ตถาคต ร่วมกัน ประกาศ พุทธวจน.


พุทธบุตร แห่ง อรหันตะสัมมาสัมพุทธะ.

 

เข้าใจ เข้าถึง รู้ลึก รู้จริง รู้จัก "อิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท-อริยสัจสี่" ... อ่าน "สรรพสิ่งสัมบูรณ์ ด้วยสัตตะธัมมะธาตุ: สัมพัทธภาพ ของ ความจริงสมมุติ กับ ความจริงปรมัตถ์" (The 7-Element: Absolute of Everything - TheTheory explain Everything)
http://igoodmedia.net/author/02_book/the-7-element/the-7-element-master-cover.pdf
http://igoodmedia.net/author/index.html?#the-7-element
หนังสือ ที่เขียนขึ้นจาก มุมมอง สัมพัทธภาพ วิทยาศาสตร์-พุทธศาสน์.

 

14 มกราคม 2564.

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

: สิ่งนี้ ชัวร์เหรอ?

ปิยสีโล ภิกขุ กล่าวไว้ว่า
อย่ารอ
ให้แก่..แล้วจึงหัดทำดี
อย่ารอ
ให้ป่วย..แล้วจึงดูแลตัวเอง
อย่ารอ
ให้ทุกข์ ..แล้วจึงปฏิบัติ
อย่ารอ
ให้สงัด..แล้วจึงทำสมาธิ

หรือว่า ... สิ่งนี้ ชัวร์กว่า!

จงรอ ให้แก่ เสียก่อน,
แล้วจะ ได้เดินสี่ขา.

จงรอ ให้ป่วย เสียก่อน,
แล้วจะ เห็นโทษ ที่ไม่ดูแลตัวเอง.

จงรอ ให้ทุกข์ เสียก่อน,
แล้วจะ รู้ชัด โทษของ
-อัสสาทะ (รสอร่อย)
-อาทีนะวะ (โทษอันต่ำทราม)

จงรอ ให้มีสมาธิ เสียก่อน,
แล้วจึง ปฏิบัติ นิสสรณะ
(อุบาย เครื่องนำทุกข์ ออกไปเสียให้พ้น).

-ปราชญ์นิรนาม-

igood-end11 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]
line

 

 
 
    thinking focus new idea today
หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ
 



 
SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net


:

.

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

:

.

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line

 


:

.

 

.2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด ]
line