เรื่องสั้น เรื่องล้อเลียน ปี 2021

 

 

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

นิทานการเมือง :
เรื่อง อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ กับลิงเกเร

เรื่องโดย ดิน หิน ฟ้า
24 มีนาคม 2564

 

 

สมัยหนึ่ง ในอดีต, มีหมู่บ้าน หมู่หนึ่ง ชื่อว่า เทพนาราวดี ตั้งอยู่บริเวณชายขอบด้านหนึ่งของ ป่าหิมพานต์ ที่มีแม่น้ำสายหนึ่ง ไหลผ่าน. ที่วงเวียนกลางหมู่บ้าน มี อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ใบใหญ่ใบหนึ่ง วางอยู่บนก้อนหินใหญ่ ที่อยู่ใต้ต้นมะเดื่อยักษ์. ชาวบ้านทุกคน ในหมู่บ้านนั้น ต่างเคารพกราบไหว้ มาเป็นเวลาช้านาน ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ. ทุกคนในหมู่บ้านนั้นเชื่อและศรัทธาว่า หากยังมีน้ำในอ่างศักดิ์สิทธิ์นั้น. เทพที่สถิตย์อยู่ ใต้ต้นมะเดื่อยักษ์ จะคุ้มครอง พืชพรรณธัญญาหาร ของชาวบ้าน ให้ได้ผลอุดมสมบูรณ์. ชาวบ้าน จึงพากันเพียรพยามตักน้ำในบ่อ ใส่ลงในอ่าง เพื่อให้มีน้ำตลอดเวลา.

 

เนื่องมาจากอ่างน้ำนี้ ก็มีอายุมากแล้ว ย่อมเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา. หัวหน้าหมู่บ้าน จึงพาลูกบ้านแวะเวียนกันมาซ่อมแซม อุดปะรอยร้าวให้ดูดีเหมือนเดิม เป็นการต่ออายุอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ ให้ยืนยาวต่อไป.

 

ต่อมา มี ลิงเกเร ตัวหนึ่ง เที่ยวเอามือหักกิ่งไม้ ไปแหย่และแกะรอยรั่วของอ่าง เพื่อให้น้ำไหลออกจากอ่าง. ชาวบ้านมาเห็นเข้า จึงช่วยกันเอาดินเหนียวมาอุด ที่รูรั่วของอ่าง. ลิงเกเร เห็นแก่สนุก จึงพาพวกมาช่วยกัน แกะรอยรั่วของอ่าง ให้มีจำนวนรูเพิ่มขึ้น. น้ำในอ่างก็แห้งเร็วขึ้น หัวหน้าหมู่บ้าน จึงป่าวประกาศ ให้ชาวบ้านผลัดเปลี่ยนเวียนกัน พวกหนึ่งไปทำการอุดรูรั่ว อีกพวกหนึ่ง ไปตักน้ำมาใส่ในอ่าง พวกหนึ่งไปขับไล่พวกลิง.

พวกลิงเกเร ยิ่งสนุกสนานยิ่งขึ้น ที่เห็นชาวบ้านวุ่นวายกับอ่าง. จึงพากันมาเพิ่มจำนวนมากขึ้น และช่วยกันทำอ่างให้มีรูรั่วมากขึ้น. พวกชาวบ้าน ก็ตามแก้ปัญหาของพวกลิง ไม่ได้หยุดพัก จนเสียเวลาทำมาหาเลี้ยงชีพ.

 

หัวหน้าหมู่บ้าน จึงไปจ้างวาน ยักษ์ใจดีตนหนึ่ง ผู้มีนามว่า ยุติธัมมัง ให้ทำหน้าที่เฝ้าอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากมีลิงตัวใด มาเจาะอ่างให้รั่ว ให้ยักษ์ตนนั้น จับลิงกินเป็นอาหารได้ทันที. แรกๆ ยักษ์ก็สนุกสนาน ในการจับลิงมาเป็นอาหาร แต่ต่อมา พวกลิงเพิ่มจำนวนมากขึ้น และยักษ์ก็เริ่มอิ่ม และรู้สึกรำคาญพวกลิง. พวกลิงเกเร ก็มีจำนวนมากขึ้นๆ ทุกวัน. ทำให้การกำจัดลิงฝูงนั้น เป็นไปอย่างล่าช้า. ด้วยเปรียบเทียบสัดส่วน ยักษ์ตนเดียว กับลิงทั้งฝูง ที่นับวันเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ. พวกลิงเกเรเหล่านั้น ก็ได้ใจ ที่เห็นยักษ์ทำอะไรพวกตน ไม่ได้ถนัดนัก. ลิงบางตัว ก็แลบลิ้นปลิ้นตา ทำท่าหลอกยักษ์ เพราะเห็นว่าเป็นยักษ์ใจดี ไม่มีน้ำยา.

 

พวกชาวบ้าน บางพวก ก็เริ่มเบื่อหน่าย รำคาญ ไม่อยากเอาภาระ ที่จะไปตักน้ำในบ่อ มาเติมในอ่าง เหมือนแต่ก่อน. คงมีแต่ ชาวบ้านบางกลุ่ม ที่ยังเอาภาระนั้นอยู่ เพียรพยายามไปตักน้ำใส่อ่าง อยู่เป็นประจำ. ส่วนใหญ่ก็เป็นคนสูงอายุ ที่ยังมีความเชื่อมั่นว่า น้ำในอ่างสามารถแลกพรอันประเสริฐ ให้ผลิตผลของไร่นา อุดมสมบูรณ์.

 

ซึ่งผิดจาก พวกชาวบ้านกลุ่มแรก ที่ ทำตัวเป็นคนหัวสูง สมัยใหม่ เรียนจบจากสำนักตักกะสิลา คิดว่าอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นเรื่องไร้สาระ จึงพากันเฉยเมย ไม่เอาภาระ ที่จะไปตักน้ำในบ่อ ไปเติมในอ่าง. พวกชาวบ้านหัวสูงบางคน ก็ทำตัวน่าเกลียด ให้ข้าวให้น้ำแก่ลิงเกเร เหล่านั้น จนพวกลิงเข้าใจว่า ให้รางวัล ที่พวกมันพากันไปเจาะรูอ่างน้ำให้รั่ว.

 

หัวหน้าหมู่บ้าน จึงตีเกราะไม้ไผ่ เรียกประชุมลูกบ้าน. เล่าสถานการณ์ อันเลวร้าย ที่จะเกิดขึ้น ในวันข้างหน้า แก่อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา. จึงสร้างความกังวล ให้แก่ชาวบ้านที่ยังเชื่อ และศรัทธา ในอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของอ่างน้ำ. ไม่มีผู้ใด มีข้อเสนอที่ดี ในการแก้ปัญหา ไม่มีวิธีไล่พวกลิงเกเร ออกไปเสียจากหมู่บ้าน.

 

#ที่ประชุม ต่างพากันนั่งนิ่ง ยาวนานนับชั่วโมง ราวกับจะยอมรับชะตากรรม ร่วมกัน!! ...

 

เมื่อนานวันหนักเข้า รูรั่วของอ่าง ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น ยักษ์ที่ดูแลอ่าง ก็เริ่มอ้วนอืดอาด กลายเป็นยักษ์ใจดีโดยไม่ตั้งใจ, ถูกพวกลิงเยาะเย้ยอยู่เป็นประจำ. ผู้คนที่เอาภาระ ไปตักน้ำใส่อ่าง ก็น้อยลงๆ ทุกวัน. เมื่อน้ำในอ่าง มีรูรั่วมากกว่า น้ำที่จะเติมลงไป. ในที่สุด อ่างศักดิ์สิทธิ์ ก็แห้งขอด ไม่เหลือน้ำสักหยด.

มีหัวหน้าลิงตัวใหญ่ ตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นลิงต่างถิ่น ได้มาแอบซุ่ม เฝ้าสังเกตการณ์ พฤติการณ์ของลิงฝูงนี้ อยูู่นานหลายปี. มันเป็นหัวหน้าพวกลิง ที่อาศัยอยู่ ณ ภูเขาอีกฟากหนึ่ง ของป่าหิมพานต์ สังเกตที่ใบหน้าของมัน จะมีสีแดงเลือดนก. เมื่อ ลิงหน้าแดง เห็นว่า ไม่มีน้ำ ในอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว การทุบรื้อ ทำลายอ่างใบนี้ ก็ทำได้ง่ายขึ้น.

ลิงหน้าแดง เชื่อว่า หากทำลาย อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เสียได้ ก็เท่ากับ ทำลายหมู่บ้านทั้งหมู่. เมื่อหมู่บ้าน กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ไร้ผู้คน ป่าก็เป็นอิสระ พร้อมที่จะให้พวกลิงแดง มาครอบครองอยู่อาศัย หากินบนความอุดมสมบรณ์ บนริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง. ส่วนพวกลิงเกเรทั้งหลาย ก็จะถูกรังแก และกีดกันให้เป็น พลเมืองลิงชั้นสอง หรือไม่ก็เป็นลิงในชั้นทาส. นี่คือ สิ่งที่หัวหน้าลิงแดง คิดวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น.

ลิงต่างถิ่นหน้าแดง จึงกึ่งจ้างวานกึ่งข่มขู่ ด้วยเขี้ยว ด้วยไม้เรียว ด้วยก้อนหิน ที่อยู่ในมือ ให้พวกลิงเกเรเหล่านั้น พากันทุบ รื้อ อ่างศักดิ์สิทธิ์ใบนั้น ให้ย่อยยับโดยไว.

...

#ที่ประชุมที่พากันนั่งนิ่ง มายาวนานนับชั่วโมง ต่างก็ได้สติ ...

 

หากปล่อยให้เรื่องราว เป็นไปเช่นนั้น พวกเขาย่อมจะได้รับชะตากรรม ในวันข้างหน้า อย่างแน่นอน. จึงพากัน ลุกฮือขึ้น แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า ...

พวกเราไม่ยอม!! ๆ ๆ ... พวกลิงเกเร จะต้องถูกลงโทษ คุมขัง. พวกลิงแดง จะต้องออกไปจากหมู่บ้าน. พวกเรา จะช่วยกันโพนทะนา แฉพฤติการณ์ของพวกลิงแดง ให้สัตว์อื่นๆ ในป่าหิมพานต์ ให้เทวดาที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นไม้ และที่อยู่บนสวรรค์ รู้นิสัยสันดาน จิตอันธพาลของพวกลิงแดง ให้รู้เห็นทั่วกัน.

 

ครั้นแล้ว หัวหน้าหมู่บ้าน จึงไปทำการจ้างวาน ยักษ์อีกสิบตน ให้มาเฝ้าอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ คอยตัดสินลงโทษ พวกลิงเกเร ในทันที่ ที่พวกมันไปเจาะรูอ่างน้ำ. ในบรรดา พวกยักษ์ทั้งสิบตน มียักษ์ที่มีจิตใจมุทะลุดุดันอยู่ด้วย สองสามตน ได้กระทำตัดสินพวกลิงพาล ให้ได้รับโทษโดยไม่ชักช้า และสาสม เพราะถือคติว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็ไม่ต่างกับ ความไร้ยุติธรรม”. พร้อมๆ กับ ที่พวกชาวบ้าน ได้สามัคคีรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ในการตีเกราะ ร้องป่าว ประกาศ ความชั่วร้าย อัปรีย์ จัญไร อุบาทว์ ชาติชั่ว ของพวกลิงพาล ให้รู้ไปทั้งป่าหิมพานต์ และทะลุไปจนถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์.

 

บรรดาสัตว์ใหญ่น้อย ในป่าหิมพานต์ ต่างพากัน ยกโขลง ยกฝูงมาที่หมู่บ้าน เพื่อมาดูเหตุการณ์. ทำให้พวกลิงพาล ทั้งลิงเกเร ลิงหน้าแดง ตกใจ พากันวิ่งหนีกระเจิงไป.

 

เพียงในเวลาไม่นาน พวกลิงเกเร ก็เลิกไปยุ่งกับอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์. พวกชาวบ้านส่วนหนึ่ง ก็ช่วยกันซ่อมแซมอ่าง และตักน้ำใส่อ่างจนเต็ม. พวกลิงเกเรส่วนหนึ่ง ถูกลงโทษจองจำ. ส่วนหนึ่ง หนีไปกับพวกฝูงลิงแดง. อีกส่วนหนึ่ง หนีเข้าป่าไป ไม่รู้ชะตากรรม. ส่วนพวกชาวบ้าน ที่ชอบทำตัวหัวสูง ทันสมัย เมื่อรู้ตัวว่าคิดผิดไป ก็ยอมสารภาพผิด กลับมารับกติกาของหมู่บ้านเหมือนเดิม. บางคนทำตัวหัวสูงเกินไป ก็ถูกขับไล่ไปจากหมู่บ้าน หรือไม่ก็ไปผูกคอตาย ในป่าหิมพานต์ เพื่อชดใช้กรรม.

 

จบ.

 

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ... ถ้าปล่อยให้ความชั่ว เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ความดี ก็จะอยู่ลำบาก และเดือดร้อน.

 

อุปมา ในนิทานเรื่องนี้:

อ่างน้ำศักสิทธิ์ หมายถึง พระราชา. น้ำในอ่าง หมายถึง ความจงรักภักดี ที่ประชาชน มีต่อพระราชา. ลิงเกเร ก็คือ พวกคนที่ต่อต้าน พระราชา และ กระทำการ ล้มล้างสถาบันของชาติ. พวกชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่ทำตัวหัวสูง ให้ข้าวให้น้ำ แก่พวกลิงเกเร หมายถึง นักวิชาการ อาจารย์ และนักการเมือง ที่สนับสนุน พวกคนที่กระทำการ ล้มล้างสถาบันของชาติ. ลิงหน้าแดง ก็คือ พวกฝรั่งจักรวรรดินิยม เจ้าลัทธิล่าอาณานิคม. ส่วน ยักษ์ ที่เฝ้าอารักขา อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็คือ ศาลยุติธรรม คณะตุลาการ.

 

[กลับไปหน้าสารบัญ บทความ หนังสือเล่ม ร้อยกรอง บทเพลง]

thinking focus new idea today
คำคม คำคิด แง่คิด ชีวิตดี
หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ
 


igood media copyright
 
SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net