Outline Story

 

 

HOME   |  AUTHOR  |  Articles - Book - Poem - SongFILM SCHOOL  |  COMMUNICATION ARTS  |  MY BLOG |


บทโครงร่าง (Story Outline)
ภาพยนตร์ เรื่อง อัลไซเมอร์ (Alzheimer

 

เกิดอะไรขึ้นกับหมอเมย์ หลังจากที่เธอ ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ที่บ้านเสร็จสิ้นลงตามขั้นตอน โดยไม่หลงลืมอะไร และเดินทางไปบรรยาย ในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความสะเทือนใจ ให้กับตัวเธอเอง อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน.

Synopsis :

หลังจากที่หมอเมย์ แพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคความจำเสื่อม ปฏิบัติภารกิจประจำวันที่บ้าน เสร็จสิ้นตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยไม่หลงลืมอะไร เธอเดินทางไปบรรยาย ในงานสัมมนาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตามที่ได้รับเชิญ. การบรรยายของหมอเมย์ แสดงถึง ความเชี่ยวชาญ ในวิชาชีพอย่างชัดเจน. เมื่อการบรรยายจบลง เธอต้องการกลับบ้าน แต่เธอลืมลูกกุญแจรถไว้ในรถ และรถก็ถูกขโมยไปแล้ว สร้างความวุ่นวาย และวิตกกังวล ให้แก่เธอและสามี ตลอดทั้งวันในวันนั้น. แต่สิ่งที่เธอได้รับ คือความจริงทั้งหมด มันตรงกันข้าม กับสิ่งที่เธอกระทำมาตั้งแต่เช้า. รถไม่ได้ถูกขโมย.

 

โครงสร้างการดำเนินเรื่อง (Plot Structure)

องก์ 1

ก่อนออกจากบ้าน ดิฉันคงไม่ลืม ล็อคประตูบ้านแน่นอน อ้อ! แล้วก็ไม่ลืม พาเจ้าโตฮะ ออกมาอยู่นอกบ้านด้วย ไม่งั้นมันคงฉี่ราดไปทั่วบ้านแน่ๆ ประตูใหญ่หน้าบ้าน ก็ไม่ลืมล็อคด้วยกุญแจอีกชั้นหนึ่ง แม้ว่ามันจะปิดอัตโนมัติก็ตาม. เพราะวันนี้ นังแจ๋ว แม่บ้านก็ดันไปมีธุระกะญาติๆ ส่วนคุณสามี ที่รักของดิฉัน ก็ออกจากบ้านพร้อมกัน เขาก็ไปธุระของเขา จะกลับเข้าบ้าน ก็คงบ่ายแก่ๆ นั่นแหละ.

องก์ 2

โชคดี วันนี้ถนนโล่ง ดิฉันมาถึงห้องประชุม ก่อนเวลาเล็กน้อย. มันก็เหมือนปกติทุกครั้งไป เวลาจัดบรรยายทีไร ก็นี่แหละ ที่โรงแรม คราวนี้คงมีงบประมาณเยอะ ก็เลยเลือกโรงแรมที่ดูหรูหน่อย ซึ่งก็เหมาะสมแล้วละ เพราะผู้เข้าประชุม ก็ล้วนเป็นคนในวงการแพทย์ พยาบาล และก็เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับ การดูแลผู้ป่วยที่บกพร่องด้านความจำ. ก็แน่ละ ดิฉันเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะนับว่าเชี่ยวชาญพิเศษ ในการรักษา โรคอัลไซเมอร์ ( Alzheimer) ก็คงไม่ผิดนัก เพราะเท่าที่ผ่านมา มีคนป่วยหลายราย ที่เป็นอัลไซเมอร์ ที่ดิฉันรับเป็นคนไข้ ลัวนแต่เป็นเคสพิเศษ ที่หมอคนอื่นเอาไม่อยู่ แต่ดิฉันรักษาให้บรรเทา หรือหายขาดได้ ถ้าอายุของคนป่วย ไม่เป็นอุปสรรค ประเภทสูงวัย ก็จะยากสักหน่อย.

นั่งคิดอะไรเพลินๆ หมอพงษ์ศ้กดิ์ ก็เข้ามาทักดิฉัน หมอพงษ์ศักดิ์ เป็นแพทย์สายทหารเก่า ปากหวาน พูดติดตลก แต่มีสาระ. ถ้ามีการประชุมสัมมนาทีไร ผู้จัดมักจะเชิญคุณหมอมาบรรยายด้วยเกือบทุกครั้ง

ดิฉันทักทายเขา ในฐานะคนสนิทกัน.

“ ไม่กลัวคนฟังเบื่อบ้างหรือคะ ?” คุณหมอตอบว่า “ ก็ต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่เรื่อย ไม่ให้ซ้ำ ถ้าคนฟังเป็นชุดเดิม แต่คนใหม่ๆ ก็มุขเดิมๆ ”

ระหว่างรอเวลาที่จะขึ้นบรรยาย คุณหมอก็เล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับตัวเอง “ พอผมออกจากบ้าน ล็อคประตูบ้าน เดินไปที่รถ อ้าว ! ลืมกุญแจรถไว้ในบ้าน ผมก็ย้อนเข้าไปเอา คว้ากุญแจแล้วก็รีบออกจากบ้าน พอผ่านพ้นประตู ก็ล็อคประตูทุกครั้ง ตามนิสัยเคยชิน พอมาถึงที่รถ เปิดประตูรถ รถสตารท์ไม่ติด เวรกรรม น้ำมันหมด เดือดร้อนละทีนี้ แต่มานึกได้ว่า เมื่อวาน ลูกชายไปซื้อน้ำมันมาเติมรถมอไชค์ ยังเหลือติดก้นแกลลอนอยู่ แต่มันอยู่ในห้องเก็บของ ผมก็เดินไปเอากุญแจในบ้าน เพื่อเอาลูกกุญแจ มาเปิดห้องเก็บของ ... หมอเมย์ รู้ไหม๊ว่าเกิดอะไรขึ้น ... ผมดันลืมลูกกุญแจบ้านไว้ข้างใน ”

ดิฉันหัวเราะเบาๆ หมอพงษ์ศักดิ์ ถามดิฉันว่า เขาเข้าขั้นเป็นอัลไซเมอร์รึยัง. ดิฉับบอกว่า ยัง ก็แค่ขี้หลงขี้ลืม คนเรามีเรื่องที่ต้องทำต้องคิดหลายเรื่อง ก็เป็นแบบนี้แหละ “ ดิฉันก็เคยเป็น เหมือนคุณหมอ ” ดิฉัน เข้าข้างเขา.

หมอพงษ์ศักดิ์ รู้สึกดีขึ้น เลยมีเรื่องเล่าต่อ “ นี่ หมอเมย์ ว่าไหม๊ ไอ้เหตุการณ์ข่าวคราวทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ยืมนาฬิกาเพื่อน หวยสามสิบล้าน ล่าลูกเสือดำ แล้วก็ป้าขวานบินอะไรนั่น ผมว่ามันทำเป็นกระบวนการนะ ... เรื่องของเรื่อง มันเกิดจาก บิ๊กป้อม นั่นแหละ เอาปืนไปแลกกับนาฬิกาของเปรมชัย เปรมชัย ดันเอาปืนไปยิงเสือดำ เปรมชัยกลัวติดคุก ก็เลยไปบังคับครูปรีชา ให้ไปโกงล๊อตเตอรี่ แล้วเอาเงินไปให้ สมยศ 30 ล้าน เพื่อช่วยเคลียร์คดีให้ แต่หมอเมย์รู้ไหม๊ สมยศ ต้องการ 300 ล้าน เปรมชัย ยังหาทางออกไม่ได้ จึงขังตัวเองอยู่แต่ในบ้าน อยากกินอะไร ก็ให้คนใช้ในบ้านไปซื้อให้ อีนังคนใช้ ก็ไปที่ตลาดสวนหลวง มันหาที่จอดรถไม่ได้ เจ้านายก็เร่ง เอาตรงนี้แหละวะ ว่างๆ จอดปั๊บ ก็ไป ไม่ทันได้ดูว่า มันไปจอดขวางหน้าบ้าน ป้าที่กะลังเป็นข่าวนั่นแหละ ก็เป็นเหตุทำให้รถถูกขวานจามซะยับเยิน เรื่องก็ลามไปจนทำให้ตลาดถูกปิด ... มันวางแผนไว้แล้ว ”

“ หมอก็ช่างแต่งเรื่อง ” ดิฉันยิ้ม และเย้าเขาเล่นสนุกๆ ... พอดี เสียงพิธีกรบนเวที กล่าวเชิญวิทยากรให้ไปขึ้นเวที หมอพงษ์ศักดิ์ จึงพูดกะดิฉันว่า ถึงคิวแล้วต้องไป แต่ดิฉันแย้งว่า มันคิวของดิฉันต่างหาก หมอคงคุยเพลิน เลยทำให้ฟังผิดไป. แต่ก่อนขึ้นเวที ดิฉันกระซิบถาม “ ที่หมอลืมลูกกุญแจไว้ในบ้าน แล้วเข้าบ้านได้ยังไง ?” หมอพงษ์ศักดิ์ ยิ้มเจื่อนๆ “ ก็ ... ผมเพิ่งนึกได้ว่า ลูกกุญแจ มันอยู่ในกระเป๋ากางเกง ตอนนั้นผมคิดว่าผมลืม ”

“ ถ้างั้น หมอก็ปกติดี ไม่ใช่อัลไซเมอร์แน่นอน ” ดิฉัน กล่าวแสดงความยินดี.

โรคอัลไซเมอร์ Alzheimer เป็นอาการสมองเสื่อมชนิดหนึ่ง ที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากเซลล์สมองตาย ทำให้สารสื่อประสาท หรือที่เรียกว่า neuro-transmitter ทำงานบกพร่อง ไม่สามารถนำคำสั่งจากสมอง ไปยังอวัยวะเป้าหมายได้ ... อาการนี้ จะส่งผลกระทบ ต่อกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และทิ้งไว้นาน เป็นสิบปี สมองก็จะเสื่อมรุนแรงยิ่งขึ้น ผู้ป่วยไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า จะพลิกตัวอย่างไร แปรงฟันอย่างไร

สารอะเซติลโคลีน ( Acetylcholine) เป็นสารสื่อประสาทที่จำเป็น แต่มันมักจะถูกทำลายโดย เอนไซม์ที่มีชื่อว่า อะเซติล-โคลีนเอสเทอเรส ส่งผลให้ อะเซติลโคลีน ในสมองมีปริมาณน้อยลง ... ดังนั้น เป้าหมายสำคัญ ของการรักษาผู้ป่วย โรคอัลไซเมอร์ คือการยับยั้งการทำงาน ของเอนไซม์ อะเซติลโคลีนเอสเทอเรส และ การเพิ่มปริมาณสารสื่อประสาท แก่ผู้ป่วย.

นี่คือ คำบรรยายส่วนหนึ่ง ที่ดิฉันก็พูดมาหลายรอบแล้ว สำหรับคนที่มาใหม่.

ส่วนปัจจัยเสี่ยง ของคนที่เป็นโรคนี้ คือ อายุ. ในคนที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ สูงกว่าคนที่มีอายุ 65-69 ปี ถึง 10 เท่า ... ดิฉันสรุปทิ้งท้าย และไม่ลืมเปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถาม.

เมื่อหมดคำถาม ดิฉันเดินลงจากเวที ระหว่างรอกิจกรรมคั่นรายการ. หมอพงษ์ศักดิ์ จะเป็นวิทยากรขึ้นบรรยาย คนถัดไป. หมอถามดิฉันว่า “ ถามจริงๆ หมอเมย์ มีสูตรลับอะไร ในการเพิ่มสารสื่อประสาท ให้กับผู้ป่วยครับ ?” ดิฉันก็กระซิบบอกเป็นการส่วนตัว เพื่อไม่ให้คนอื่นเกิดข้อกังขา ในความเชี่ยวชาญด้านนี้ของดิฉัน

“ ดิฉัน ใช้กัญชา ”

“ โอ้ว! แม่เจ้า ” เขาอุทานเบาๆ ก่อนเดินขึ้นเวทีไป.

...

หลังจากบรรยายเสร็จ ก็รู้สึกโล่งใจได้ครู่เดียว. เพราะมีเรื่องต้องห่วงกังวล อีกหลายเรื่อง ต้องรีบกลับบ้าน. ไม่รู้ว่าเจ้าโตฮะ เป็นอย่างไรบ้าง ให้มันอยู่เฝ้าบ้านตัวเดียวเพียงลำพัง แต่ก็คิดว่า ป่านนี้คุณสามี คงกลับถึงบ้านแล้วละ.

ฉันรีบเดินออกจากโรงแรม ตรงไปที่ลานจอดรถ พร้อมกับเอามือ ควานหาลูกกุญแจรถ ในกระเป๋าถือ. แต่ไม่พบ ดิฉันหยุดเดินชั่วครู่ ตั้งใจค้นหาให้ละเอียดอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบ. ดิฉัน คิดทบทวน อ้อ! อาจลืมไว้ในห้องประชุมก็ได้. ดิฉัน จึงยอมเสียเวลา เดินกลับไปที่นั่นอีกครั้ง. เมื่อไปถึง มองหาลูกกุญแจ ก็ไม่มี ถามเจ้าหน้าที่บริเวณนั้น ก็ไม่มีใครเห็น. ดิฉัน เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ , ใคร่ครวญให้รอบคอบอีกครั้ง.

ตายละ! ดิฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ลืมกุญแจ ทิ้งไว้ในรถ อีกแล้วรึเนี่ย. โธ่เอ๊ย!!! คุณสามี ที่รักของดิฉัน ก็เคยเตือนดิฉันหลายครั้งแล้วว่า อย่าคากุญแจไว้ที่รถนะ! ... แต่ตอนนี้ ต้องรีบไปให้ถึงรถก่อน ค่อยหาทางแก้ไขทีหลัง.

คุณพระช่วย! รถของดิฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น มันถูกขโมยไปแล้ว โธ่! ๆ ๆ ทำไงดีล่ะทีนี้ รถนั่น คุณสามีอุตส่าห์ซื้อให้ เป็นของขวัญวันเกิด เขาสู้อุตส่าห์ทำงานหนัก เก็บเงินซื้อสิ่งนี้ เพื่อภรรยาสุดที่รัก แต่ดิฉันก็เผลอทำมันหายไปเสียแล้ว.

ชักช้าไม่ได้แล้ว ดิฉันหยิบโทรศัพท์ โทรแจ้งตำรวจทันที ให้รีบสกัดจับขโมยโดยด่วน มันอาจจะหนีไปได้ไม่ไกลก็ได้ ตำรวจซักถามข้อมูลที่จำเป็นเร่งด่วน แต่ดิฉันเล่าไปหมดทุกอย่างที่รู้ เกี่ยวกับรถ สถานที่เกิดเหตุ ลักษณะรถ ป้ายทะเบียน.

เสร็จขั้นตอนเร่งด่วนไปแล้ว คราวนี้ก็เหลือขั้นตอนสำคัญ. ดิฉันจะบอกกับสามีสุดที่รักยังไงดี ว่ารถที่เขาซื้อให้ มันถูกขโมยไปแล้ว. น้ำตาของดิฉัน ไหลซึมเอ่อออกมาไม่รู้ตัว เสียใจมาก กับความงี่เง่า ขี้หลงขี้ลืมของตัวเอง. พอตั้งสติได้ ดิฉันโทรหา คุณสามี ด้วยความรู้สึกผิด.

“ ฮัลโล! ที่รัก เอ่อ ... คุณอย่าเพิ่งต่อว่าฉันนะ ”

“ มีอะไรรึคุณ ร้องไห้ทำไม ?”

“ ฉันทำผิดอีกแล้วง่าาาา ฉันลืมกุญแจไว้ในรถ และรถถูกขโมยไปแล้ว ”

...

ดิฉันมัวแต่เสียใจ ที่สูญเสียสิ่งที่รักไป จนพูดอะไรต่อไม่ได้. มีเสียงตะกุกตะกัก แว่วผ่านออกมาจากโทรศัพท์ แล้วทุกอย่างก็เงียบไป โธ่! เขาคงจะโมโหดิฉันแน่ๆ เลย. ที่รัก ฉันขอโทษ.

ดิฉันลังเลอยู่นาน จนจำไม่ได้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแล้ว ... และเแล้ว ก็มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น เป็นของคุณสามีนั่นเอง ดิฉันรีบรับสายทันที เขาคงหายโกรธดิฉันบ้างแล้วละ ... แต่ดิฉันกลับรู้สึกว่า โลกมันคงหมุนกลับด้านแน่ๆ เลย เมื่อได้ยินเสียงตะโกน ออกมาจากโทรศัพท์ว่า

“ คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง! ผมเป็นคนขับรถไปส่งคุณที่โรงแรม !!! เมื่อเช้า ขมงขโมยที่ไหนเล่า ”

ดิฉัน รู้สึกเหมือนมีกระสอบทรายหนักๆ ของนักมวย ฟาดลงที่ศีรษะ. รีบตั้งสติโดยเร็ว สลัดความขุ่นมัวออกไปในทันที “ ที่รัก ฉัน ฉัน ขอโทษ ” คราวนี้ ฉันร้องไห้โฮออกมา แบบไม่อายใคร แต่โชคดี ที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น. มันแยกไม่ออกว่า เสียใจ หรือดีใจ หรือว่า ดิฉันเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ!!!

“ งั้น คุณ รีบมารับฉันได้ไหม๊คะ ตอนนี้เลย นะ ”

แต่เสียงตอบ ที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้ดิฉันรู้สึก ทั้งอับอาย และรู้สึกช็อค.

“ จะรีบได้ยังไง ... ตอนนี้ ถูกตำรวจจับอยู่! ... ไม่รู้ใครโทรไปแจ้งว่ารถหาย หาว่าผมขโมยรถ เวรแท้ๆ!!! ”

องก์ 3

กว่าเรื่องราวจะกระจ่าง คุยกะตำรวจรู้เรื่อง ก็มืดค่ำพอดี คุณสามี ขับรถมารับดิฉัน กลับบ้านด้วยกัน. ดิฉัน ต้องสูญเสีย ทั้งเวลา เสียหน้า เสียความรู้สึกดีๆ ไปมากมาย แต่มาคิดอีกที ก็ยังดีกว่า เสียสามีไป. ตลอดทางทั้งดิฉัน และสามี สุดที่รัก ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย เขาคงโกรธดิฉันไปอีกนาน. รถวิ่งมาถึงประตูใหญ่หน้าบ้าน ดิฉันกำลังจะลงไปเปิด เพราะไม่อยากรบกวนเขา แค่ขับรถมารับก็ดีนักหนาแล้ว.

“ ไม่ต้องหรอกคุณ ” เขาพูด พร้อมกับกดรีโมท ประตูใหญ่ให้เลื่อนเปิดเอง

จากนั้น เรื่องราวทุกอย่างในบ้าน ก็กระจ่างชัดขึ้น มันถูกพ่นออกมาจากปากสามีสุดที่รัก ของดิฉันนั่นเอง.

“ ผมบอกคุณตั้งหลายหนแล้วใช่ไหม๊ เวลาออกจากบ้าน ให้ล็อคประตูใหญ่ด้วย ผมคิดว่าคุณล็อคมันเรียบร้อยแล้วซะอีก ดีนะที่ขโมยมันไม่งัดซ้ำ ลำพังประตูอัตโนมัติน่ะ มันกันขโมยได้ที่ไหนกันเล่า. คุณก็รู้ว่า วันนี้ผมรีบ เห็นไหม๊ ผมเอาของไปส่งที่บ้านน้องชายคุณ กลับมา คุณก็ยังแต่งตัวไม่เสร็จ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมเข้ามาในบ้านดูความเรียบร้อยอีกรอบ โธ่ ! ผมก็หลงไว้ใจว่าคุณจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนออกไป ”

เขาหยุดคำพูดนิดหนึ่ง ดิฉันอยากจะแทรกแผ่นดิน หลบหน้าทุกคนในบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้ และเมื่อรู้ว่า ดิฉันทำพลาดครั้งใหญ่ ดิฉันถึงกับร้องไห้ออกมา ...

“ คุณรู้ไหม๊ คุณน่ะใจร้ายสุดสุด ที่ขังเจ้าโตฮะไว้ในบ้าน ”

จบ .
(ใครไม่ฮา ขอให้ขี้แตกขี้แตน)

 

Copy writer :

SUDIN CHAOHINFA สู่ดิน ชาวหินฟ้า
dfilm school / www.igoodmedia.net
e-mail – sudin.expert@yahoo.com
phone – ( +66 ) 8 8291 9232
date –29 November 2017

Length :30 min.

Theme :

การสูญเสียความทรงจำ เป็นความบกพร่องทางจิต ที่เกิดได้กับทุกคน แม้กระทั่งหมอผู้เชี่ยวชาญโรคความจำเสื่อม

Genre :

ตลก – comedy

Premise :

เกิดอะไรขึ้นกับหมอเมย์ หลังจากที่เธอ ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ที่บ้านเสร็จสิ้นลงตามขั้นตอน โดยไม่หลงลืมอะไร และเดินทางไปบรรยายในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้กับตัวเธอเอง อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน.

 

 


thinking focus new idea today
คำคม คำคิด แง่คิด ชีวิตดี

 


igood media copyright
 
SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net