igood media
หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

Blog film school

My Media channel

blog

1 หน้าแรก
2
บทความ
หนังสือเล่ม
ร้อยกรอง เพลง
3
บทภาพยนตร์
ภาพยนตร์สั้น
วีดิโอ มิวสิควีดิโอ
4
วิชาเรียน นิเทศศาสตร์
ตำราเอกสาร
สื่อการเรียน
 

 

 

 

บทโครงร่าง (Story outline)
ภาพยนตร์ เรื่อง
โชคชะตา ข้าไม่สน
Drive Good Lucky (2018)

The premise

เกิดอุปสรรคและความหายนะอะไรขึ้น กับ ลีออง โช ผู้ยึดมั่นต่อ ความซื่อสัตย์ ของตัวเอง ซึ่งอุปสรรคและความหายนะเหล่านั้น ล้วนเกิดจาก การทรยศหักหลัง ของเพื่อนรัก. เพื่อเป็นการทดสอบ ความเชื่อมั่น ที่มีต่อความซื่อสัตย์ ดุจพระเจ้าของเขา แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เขาจะทำอย่างไร, สู้หรือยอมแพ้.

 

Synopsis

เมื่อเพื่อนรักของ ลีออง โช ทั้ 3 คน คือ เลวิส เหลียง, บีโม เรย์ และ หลุยส์ ไชยงค์ ต่างทรยศหักหลังเขา เพียงเพื่อกีดกันเขา ไม่ให้เป็นผู้มีส่วนร่วม และส่วนแบ่ง ในการเดินทางไปล่าสมบัติ ที่เกาะเซอร์กา ซึ่งเป็นเกาะลับ มหัศจรรย์ มีสมบัติมากมาย ตามลายแทงที่พวกเขาร่วมกันเป็นเจ้าของ. ลีออง โช ต้องเอาตัวรอดในเกาะแห่งหนึ่ง ภายใต้การช่วยเหลือของ อาเธอร์ ลู เฒ่าทะเล ผู้พิทักษ์ คริสตัลแห่งกาลเวลา ตามบัญชาของ เทพอมตะ. แต่แล้ว ก็มีเหตุการณ์ที่เขาต้องยอมสูญเสียดวงตา ให้กับจอมโจรสลัด แคร็กเกอร์ เปโรสะเปโร ผู้โหดเหี้ยม เพื่อแลกกับชีวิตของ อาเธอร์ เฒ่าทะเล ผู้มีบุญคุณ. ด้วยความดี ความซื่อสัตย์ของ ลีออง โช ทำให้เขาได้รับพรวิเศษ ในการมองเห็น แทนดวงตาอีกข้างหนึ่งกลับคืนมาเป็นการตอบแทน แม้ว่าดวงตาจริงของเขาจะบอดสนิท. เข้าได้รับภารกิจจาก เทพอมตะ ให้เป็นผู้พิทักษ์ ผลึกคริสตัลแห่งกาลเวลา รุ่นถัดไป ทำให้เขามองเห็น ความหายนะ ของเพื่อนทั้งหมดของเขา ผ่านมโนภาพ ซึ่งเกิดจาก ปาฏิหาริย์ของคริสตัลแห่งกาลเวลา ที่เขาปกป้องมันไว้.

 

Plot Structure

 

องก์-1

ค่ำคืนหนึ่ง เมื่อมองระยะไกล จะเห็นเงาดำทะมึนของตึกเก่าตึกหนึ่ง ตั้งตระหง่านอยู่บนริมฝั่งทะเลอันเงียบสงบ มีแสงไฟส่องลอดออกมาจากห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงแว่วๆ ผสานกับแรงลมทะเล ของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่อยู่ภายในนั้น. พวกเขาสนทนา โต้เถียงกัน ในการวางแผนทำอะไรบางอย่าง.

ในห้องนั้น ปรากฏวัตถุโบราณล้ำค่าหลากหลายชนิด แสงไฟจากแสงเทียน ส่องไปทั่วห้อง และแสงจากเตาไฟ มันสว่างเพียงพอ ที่จะมองเห็น สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้. สิ่งที่ปรากฏบนโต๊ะกลมตรงกลาง คือแผนที่โบราณ ซึ่งพวกเขาเรียกว่า ลายแทงมหาสมบัติ แห่งเกาะสวรรค์ที่มีชื่อว่า เซอร์กา อันเป็นเกาะลึกลับ ยากที่ผู้ใดจะไปถึง มันไม่ปรากฏอยู่บนแผนที่โลก มีเพียงคำเล่าลือเท่านั้นว่า มันมีอยู่จริง. พวกเขาได้ลายแทงนี้มา เท่ากับยืนยันว่า นี่คือเป้าหมายเดียวกันที่พันธมิตรทั้งสี่ฝ่าย กำลังวางแผนที่จะไปที่นั่น.

แล้วแผนการก็เริ่มขึ้น

ชายผู้มีร่างสูง ผิวขาว ผมยาวถึงไหล่ ในชุดนักล่าสมบัติ เพื่อนๆ เรียกว่า เลวิส หรือ เลวิส เหลียง จากดินแดนมังกร ผู้มีความฉลาดรอบรู้ในการขุดค้นหาสมบัติโบราณ. เขายืนขึ้นอย่างสง่า แล้วมองไปที่ชายตัวเล็กกว่าทุกคน ที่นั่งอยู่ข้างๆ หากแต่มีใบหน้าคมสัน ดวงตาค่อนข้างกลมโต ผมหยิกเป็นลอน ดูสง่างาม แต่อยู่ในชุดที่ไม่ต่างจากยาจก คนไร้ทรัพย์สิน ในหมู่สหาย เรียกเขาว่า ลีออง โช หนุ่มสายเลือดผสมอาทิตย์อุทัย-อิตาเลียน. เขาเป็นผู้ค้นพบลายแทง และเขาทำตามสัญญา ที่จะไม่ทรยศกับเพื่อน โดยการครอบครองลายแทงไว้เพียงผู้เดียว. เลวิส ต้องการแผนการที่ดีในการเดินทาง เขาจึงขอความเห็นจากเพื่อนๆ.

บีโม เรย์ อดีตหัวหน้าหมู่บ้านชาวเล แห่งเกาะชวา ผู้มีบริวารลูกเรือกว่าร้อยคน เขาพยุงร่างอันสูงใหญ่และอ้วน มีหนวดเคราครึ่งใบหน้า ยืนขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยท่าทางสุขุมสมเป็นผู้นำ. แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สินเงินทองและบริวารมากมาย แค่นี้ก็ทำให้เขามีความสุขแล้ว แต่การผจญภัยเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เขาไม่อาจพลาดงานนี้ได้ เพื่อเป็นการรับประกันในความปลอดภัยให้แก่สหาย และไม่ต้องลำบากจนเกินไป เขายินดีให้ใช้เรือขนาดใหญ่ของเขา เป็นพาหนะเดินทาง และให้เพื่อนๆ ทุกคน ร่วมเดินทางไปด้วย พร้อมข้อเสนอที่ว่า สมบัติที่หาได้จะแบ่งเท่าๆ กัน หลังจากหักส่วนเกินที่เขาควรจะได้รับ ในฐานะผู้นำ.

ข้อเสนอนี้ ทำให้ หลุยส์ ไชยงค์ หนุ่มนักผจญภัยแห่งแผ่นดินสุวรรณภูมิ ลูกผสมไทย-ผรั่งเศส รู้สึกไม่พอใจ เขาขยับใบหน้าที่คมเข้ม ผิวผสมดำแดง คิ้วเข้ม บนร่างสูงทะมัดทะแมง เขาแย้งว่า การค้นหาสมบัติครั้งนี้ ต้องเป็นการแข่งขัน ใครหาได้มาก ขนไปได้มาก ก็ให้เป็นสิทธิ์ของคนนั้น ดังนั้น ต่างคนต่างไปด้วยเรือของตัวเอง. เรย์ แย้งว่า ครั้งแรกเขาก็คิดเช่นนั้น แต่นั่นไม่เป็นธรรมกับเพื่อนๆ เขายังบอกอีกว่า แล้วลีออง จะไปอย่างไร เรือของเขาเล็กเกินไป เขาก็ควรมีส่วนแบ่งในแผนนี้ด้วย และที่สำคัญ ลีอองเพียงคนเดียว ที่อ่านลายแทงนี้ได้ พวกเราต้องพึ่งเขา.

แต่ หลุยส์ ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี เขามองเห็นว่าจะเกิดเรื่องทรยศขึ้นได้ จะมีใครรับประกันได้ว่า ลีออง จะบอกความจริงทั้งหมด ในลายแทง.

ลีออง ถูกพาดพิง รู้สึกไม่สบายใจ เขาอธิบายว่า เขาไม่เคยคิดหักหลังเพื่อน แม้เขาจะรู้ตำแหน่งสมบัติก็จริง การขุดสมบัติเพียงคนเดียว อาจไม่ปลอดภัยจากพวกโจรสลัด ลีอองจ้องหน้าหลุยส์ พูดกับเขาอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า พวกเราบางคน อาจจะเป็นใครก็ได้ ถ้าเผชิญหน้ากับโจรสลัดแคร็กเกอร์เมื่อใด นั่นแหละคือโชคร้ายละ แน่นอน เขาจึงต้องมีเพื่อน ดังนั้น อย่ามาดูหมิ่นน้ำใจและความซื่อสัตย์ของตน.

เพียงแค่เอ่ยชื่อ แคร็กเกอร์ หรือ แคร็กเกอร์ เปโรสะเปโร ก็ทำเอาทุกคนรู้สึกสยองไปไม่น้อย ยกเว้น หลุยส์ เพราะเขาเองก็มีศักดิ์ศรี เป็นทายาทผู้สืบเชื้อสายจอมโจรสลัดในตำนาน แจ็ค สแปโรว์ เช่นกัน.

ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง ลีออง จึงเอ่ยซ้ำยืนยันความซื่อสัตย์ของตนอีกว่า ต่อให้เขาเป็นผู้ครอบครอง ผลึกคริสตัลแห่งกาลเวลา เขาก็จะไม่เก็บไว้คนเดียว.

เมื่อเอ่ยถึง คริสตัลแห่งกาลเวลา เหมือนเป็นมนต์สะกดให้ทุกคนนิ่ง กลบกลืนความรู้สึกสยองของโจรสลัดแคร็กเกอร์ไปชั่วขณะ. ทุกคนนั่งลง มองหน้ากันและกัน ราวกับว่า พวกเขาได้ลืมสิ่งสำคัญที่สุดไป ในโลกของการล่าสมบัติ และการผจญภัยทางทะเล.

ลีออง ทำลายความเงียบด้วยคำกล่าวว่า มันก็แค่คำเล่าลือ ตัวเขาเอง เป็นนักแสวงโชค ที่เก่งกล้าคนหนึ่ง ก็ยังไม่เคยพบเห็นคริสตัลแห่งกาลเวลา ที่ไหนเลย แม้ว่ามันจะเป็นของวิเศษมหัศจรรย์ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีผู้ใดครอบครองมันได้โดยง่าย พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า คริสตัลแห่งกาลเวลานั่น มีตัวตนจริงหรือไม่ และถูกเก็บไว้ที่ใด เขาบอกให้สหายทั้งสามคน มองข้ามมันไปได้เลย. แต่เลวิสแย้งว่า น่าเสียดาย ของวิเศษนั่นจะทำให้พวกเขารู้ที่ซ่อนของขุมสมบัติ ไม่ใช่แค่โลกใบนี้เท่านั้น.

ในเมื่อยังไม่มีข้อสรุปที่ดี และไม่ต้องการให้สหายทั้งสี่คน แตกความสามัคคี กันไปมากกว่านี้ เลวิส จึงเสนอแผนการเดินทาง คือ สหายทุกคน ต่างก็มีเรือ และลูกเรือเป็นของตนเอง เรือทุกลำ จะเกาะกลุ่มกันไป จะไม่มีผู้ใดแยกกัน ที่สำคัญคือ หากเกิดพายุ และเรือลำใดอัปปาง หรือเจอกับพวกโจรสลัด พวกเขาจะช่วยเหลือกัน และเมื่อไปถึงเกาะเซอร์กาแล้ว ใครมีปัญญาขนสมบัติไปได้เท่าไร เป็นสิทธิ์ของผู้นั้น. เลวิส เสนอต่อว่า ให้ลีอองไปกับตน และเขาจะเป็นผู้นำขบวนไป และจะแวะพักเติมน้ำ อาหาร ที่เกาะนี้ เขาชี้ไปที่เกาะแห่งหนึ่งในแผนที่ลายแทง.

ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง และคิดว่าไม่มีแผนใดดีไปกว่านี้ เลวิส จึงสรุปแผนการเดินทาง พวกเขามีเวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน.

 

องก์ 2

ลีออง กลับไปหาภรรยา และเตรียมตัวในการเดินทางไปเผชิญโชคครั้งนี้. เรย์ กลับไปที่หมู่บ้านของตน เพื่อตระเตรียมอาหาร สุรา ยา และเครื่องอำนวยความสะดวก อาวุธป้องกันตัว และคัดเลือกลูกเรือฝีมือดี แม้ว่าเขาจะมีเรือขนาดใหญ่ และทันสมัยกว่าสหายทั้งสามคน แต่เขาก็ไม่ประมาท. หลุยส์ มุ่งศึกษาหาวิธีดัดแปลงเรือ ให้แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ดี ไปพร้อมๆ กับการสะสมอาวุธ อาหาร และฝึกลูกเรือในการต่อสู้.

การเตรียมตัวของ เลวิส ก็ไม่ต่างจากเพื่อนๆ เขาเตรียมวางแผน เส้นทางเดินเรือร่วมกับ ลีออง. ลีออง ยังชื่นชมเขาอีกว่า เป็นเพื่อนที่ฉลาดที่สุด ส่วนเลวิสก็ชื่นชมว่า ลีอองก็เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์จริงใจมากที่สุด.

แต่ในบรรดาสหายทั้งสามคน ต่างก็มีแผนสอง แผนสาม อยู่ในใจทุกคน และซ่อนมันไว้ ยกเว้น ลีออง มีเพียงแผนเดียว คือไปกับเลวีส เพื่อนำเพื่อนๆ ไปให้ถึงเกาะเซอร์กา ให้สำเร็จ เขาหวังว่าการเดินทางผจญภัยล่าสมบัติเซอร์กา ในครั้งนี้ จะสำเร็จได้ด้วยคำมั่นสัญญา ที่จะจริงใจต่อกัน และไม่ทรยศหักหลังกัน.

เมื่อครบกำหนดเวลา ขบวนเรือเดินทะเล 3 ลำ พร้อมลูกเรือไปล่าสมบัติ เริ่มออกเดินทาง. ใบเรือถูกกางออกรับกระแสลม เมื่อออกสู่ท้องทะเล ลูกเรือของทุกลำต่างเข้มแข็ง มีกำลังใจ ด้วยหวังว่าเมื่อพบสมบัติ และนำไปขายได้เงินไปใช้สอย ตามที่ทุกคนต้องการ. เรือของ เลวิส นำขบวน ถัดไปเป็นเรือของ บีโม เรย์ และ หลุยส์ ไชยยงค์ ซึ่งเกาะกลุ่มกันไปห่างๆ.

การเดินทางผ่านไป 10 วัน คราวานเรือล่าสมบัติเซอร์กา พักแวะเติมน้ำ อาหาร ที่เกาะแห่งหนึ่ง. ลูกเรือของเรือทั้ง 3 ลำ รวมกันกว่า 150 ชีวิต ต่างชุมนุมพักเหนื่อย กิน ดื่ม สนุกสนานเฮฮา. ที่เต็นท์พัก ของสหายทั้ง 4 คน สุรา ทำให้การสนทนาเริ่มออกรสชาติการแข่งขันกันและกัน.

เรย์ ลงทุนไปกับงานนี้ไม่น้อย เขาต้องสนองลูกเรือให้ครบทุกคน ดังนั้น เขาต้องได้สิ่งตอบแทนที่คุ้มค่า หลุยส์ มีความปรารถนา ไม่ใช่แค่แสวงหาขุมทรัพย์เซอร์กาเท่านั้น เขามีเป้าหมายไปไกลกว่านั้น คือ การได้ครอบครองผลึกคริสตัลแห่งกาลเวลา. เลวิส ถามว่า ถ้างานนี้ล้มเหลว พวกเขาทั้งหมดไปไม่ถึงเกาะเซอร์กา จะทำอย่างไร หลุยส์ บอกว่านั่นคือข้อผิดพลาดของ เลวิส ทั้งที่มีลายแทงอยู่กับมือ พวกเขาจะไปไม่ถึงเซอร์กาได้อย่างไร เรย์ ตอกย้ำบรรยากาศความขัดแย้งอีกว่า จะไม่มีใครคิดทรยศเขา เพราะเขามีลูกเรือมากกว่า. ลีออง เริ่มมองเห็นวี่แววความขัดแย้ง จึงเตือนสติให้สหายทุกคน รักษาคำสัญญา และช่วยเหลือกัน เพราะไม่มีใครรู้ว่า ในสถานการณ์ล่าสมบัติ จะพบอุปสรรคอะไรบ้าง ทุกคนอาจตายหมด. เลวิส ปกป้อง ลีออง เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ลีอองพูด. บรรยากาศความขัดแย้งสงบลง แต่ทิ้งร่องรอยความไม่พอใจแก่ เรย์ หลุยส์ และ เลวิส. ในความขัดแย้งของพวกเขา มีความรู้สึกร่วมอยู่อย่างหนึ่ง ที่ลีออง ไม่อาจล่วงรู้ได้.

การเดินทาง ดำเนินต่อไปอีก 10 วัน ตลอดทั้ง 10 วัน เลวิส เรียนรู้การอ่านลายแทงจาก ลีออง จนมั่นใจว่าเข้าใจดีแล้ว. เขาขอร้องให้ ลีออง เล่าถึงความเป็นมาของ คริสตัลแห่งกาลเวลา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณ ไม่แพ้อินเดียน่า โจน.

ลีออง เล่าว่า คริสตัลแห่งกาลเวลา เป็นสมบัติของจักรวาล, เทพอมตะ เป็นผู้ค้นพบมัน เมื่อครั้งจักรวาลก่อกำเนิด มันได้รับการปกป้องมาตลอด เพื่อไม่ให้ถูกสัมผัสกับแสงอาทิตย์ มีมนุษย์ผู้หนึ่งคอยพิทักษ์มันไว้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่า คริสตัลแห่งกาลเวลาจะมีตัวตนจริงหรือไม่ และผู้พิทักษ์เป็นใคร เขารู้ประวัติมันคร่าวๆ แค่นี้. เลวิส ถามว่า แล้วเพราะเหตุใด ผู้คนจึงต้องการครอบครองมัน ลีออง เล่าต่อว่า เมื่อนำมันไปสัมผัสกับแสงอาทิตย์ มันสามารถทำให้ผู้ครอบครอง ข้ามเวลาไปในอดีตและอนาคตได้ตามที่ปรารถนา เลวิส ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ซึ่งลีอองไม่อาจคาดเดาว่า เลวิสเพื่อนรักกำลังคิดอะไร.

ถ้าแผนที่ลายแทงบอกไว้ไม่ผิด, เมื่อการเดินทางของพวกเขา ผ่านมาถึงเกาะหัวกะโหลก นั่นหมายถึงว่า พวกเขามาถูกทางแล้ว และใกล้เกาะเซอร์กา เข้าไปทุกขณะ. เลวิสและลูกเรือของเขา จะต้องผ่าน การต้อนรับจากอสูรแห่งท้องทะเล ในด่านแรกนี้ ก่อนเหยียบย่างขึ้นไป บนเกาะเซอร์กา. มันเป็นอสูรที่ไม่มีชีวิต ไม่มีหัวใจ มันมาพร้อมกับ คลื่นทะเลที่ปั่นป่วน จนลูกเรือรู้สึกได้ เหมือนถูกปีศาจจับเรือ เหวี่ยงโยกโยนไปมา จนน่าสะอิดสะเอียน น่าเวียนหัว บางคนทนไม่ได้ ก็อาเจียณออกมา.

ระหว่างที่ลูกเรือ กำลังสาละวนอยู่กับการประคองเรือไม่ให้ล่ม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับลีออง, ลีอองถูกเรือเหวี่ยงตกจากเรือ พร้อมกับกล่องใส่แผนที่ลายแทง ที่เขาห้อยติดตัวไว้. โชคดี ที่สายสะพายของกระบอกแผนที่ เกี่ยวกับขอเหล็กข้างเรือ ลีออง จึงห้อยโตงเตง โยนโยกไปมาตามแรงเหวี่ยงของคลื่น. เขาร้องเรียกให้เลวิสช่วย เลวิส รีบคว้าสายสะพายของกระบอกแผนที่ไว้ได้ทัน แต่มันรับน้ำหนักตัวของลีอองไม่ไหว ลีออง สบตากับเลวิสของร้องให้ช่วย แต่เขาก็อ่านสายตาของเพื่อนไม่ออกว่า เพราะเหตุใดเพื่อนรักจึงชักช้า ปล่อยให้เขาห้อยโตงเตงเกือบจะตกทะเล. ลีออง เริ่มสะทกสะท้านกับชะตาชีวิตของตัวเอง เมื่อเขามองไปที่ดวงตาของเลวิส.

เลวิส คว้าสายสะพายกระบอกแผนที่ลายแทงไว้ จนกระทั่งมือของลีอองอ่อนล้า. ในที่สุด ลีออง ก็หลุดร่วงสู่ท้องทะเล โชคดีที่มีกล่องใหญ่ใบหนึ่ง หล่นตูมลงไปที่ใกล้ๆ ตัวเขา. เหมือนเป็นความตั้งใจ ที่จะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้.

ลีออง รีบเอาตัวรอดจากอสูรกายแห่งท้องทะเล ด้วยการเกาะกล่องใบใหญ่ช่วยชูชีพ ซึ่งแล้วแต่ว่ามันจะพาเขาไปที่ใด.

อีกด้านหนึ่งของท้องทะเล ห่างจากเกาะหัวกะโหลก ออกไปทางด้านขวา 90 องศาตะวันตก ราวไม่กี่ไมล์ ชายชราแห่งท้องทะเลผู้หนึ่ง กำลังแล่นเรือเล็กของตน หนีบางสิ่งที่ไล่หลังเขา เขามองเห็นความปั่นป่วนของทะเลข้างหน้า เขาลังเลนิดหนึ่ง นี่มันเหมือนหนีเสือปะจระเข้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจ แล่นเรือต่อไปข้างหน้า ซึ่งอาจมีทางรอดมากกว่า ย้อนกลับไปปะทะกับเสือ.

เลวิส รีบบัญชาให้ลูกเรือใช้ใบพาย บังคับเรือออกไปให้พ้นๆ อสูรบ้านี่. พอพ้นออกไปได้ เขาสั่งให้ลูกเรือกางใบเรือรับกระแสลม เรือวิ่งฉิวทิ้งห่างจากคลื่นทะเลอันปั่นป่วนไปได้อย่างหวุดหวิด และมุ่งหน้าสู่เกาะเซอร์กา ด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนไว้ ทิ้งให้ลีออง เผชิญกับชะตากรรมเพียงลำพัง.

อีกด้านหนึ่งของห้วงทะเลอันเวิ้งว้าง เรือของโจรสลัดลำหนึ่ง แล่นผ่านอาณาบริเวณที่ไม่ไกลจากเกาะกะโหลกเท่าไรนัก จอมโจรสลัด ผู้มีใบหน้าที่แสดงถึงความโหดเหี้ยม ผ่านศึกต่อสู้มาไม่น้อย สังเกตได้ไม่ยาก คือ มีนัยน์ตาเพียงข้างเดียว ที่บริเวณแก้มด้านตรงข้าม มีรอยบาก อันเกิดจากของมีคมฝากไว้เป็นที่ระลึก. เขาส่องทางไกลด้วยกล้อง แทนที่จะพบสิ่งที่ต้องการ แต่กลับเป็นแนวของคลื่นทะเลที่กำลังปั่นป่วน เขาก็แสดงอาการโกรธขึ้นมา ด้วยการถีบลูกสมุนโจรคนหนึ่ง ล้มกลิ้งที่กลางลำเรือ แล้วสั่งให้แล่นเรืออ้อมไปทางทิศตะวันออก เพื่อหลบหลีก จากการปะทะกับคลื่นยักษ์ที่อยู่ข้างหน้า แล้วตามหาสิ่งนั้นให้พบ.

เรือของเลวิส เริ่มห่างจากเพื่อนๆ ออกไป ด้วยความเร็ว ที่ไม่เคยเร็วแบบนี้มาก่อน. ไม่มีใครรู้เลยสักนิดว่า เลวิส ทำอะไรกับเรือของเขา จึงแล่นได้เร็ว และทิ้งห่างพวกเพื่อนๆ ไกลออกไปทุกขณะ ในใจเขาคิดอะไร. แน่นอนว่า คนฉลาดอย่างเลวิส ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึง.

ลีออง พยายามเอาตัวรอด โดยการเกาะกล่องใบใหญ่ลอยไปตามกระแสคลื่น เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่า เมื่อไหร่ คลื่นอันบ้าคลั่งนี้จะจบลง ไม่เช่นนั้น ชีวิตของเขาอาจต้องจบลงในเวลาอันใกล้นี้. ขณะท้องทะเลปั่นป่วน, ลีอองสังเกต มีนกทะเลตัวหนึ่ง บินโฉบผ่านมา แล้วก็ผ่านไป เขาคิดบางสิ่งเกี่ยวกับนกตัวนั้น. ชะตาชีวิตของเขา ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอสูรแห่งท้องทะเล.

ชายชราแห่งท้องทะเล ก็ประสบภาวะเดียวกัน เรือของเขา ถูกคลื่นทะเลบ้า โยนไปมาเหมือนลูกบอล. นกทะเลตัวเดิม บินโฉบเฉี่ยวไปมา. เขาพยายามประคองเรือ ให้ลอยอยู่บนผิวน้ำให้นานที่สุด ซึ่งเรือของเขาแม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีความพิเศษ อย่างน่าทึ่ง คือมันไม่จม เมื่อเผชิญกับอสูรแห่งท้องทะเล มันจะทำหน้าที่ เหมือนเรือดำน้ำ และลอยขึ้นมาบนผิวน้ำได้เอง เพียงแต่ว่า เจ้าของเรืออย่าหลุดออกจากตัวเรือเท่านั้น ก็จะรอดชีวิตได้.

กล่องใบใหญ่ช่วยชูชีพพา ลีออง ออกมาจากเขตบ้าคลั่งของท้องทะเล คลื่นเบาลงและเริ่มสงบขึ้นทุกขณะ. ลีออง ถอนหายใจ ที่รอดชีวิตมาได้. และเขาก็เริ่มมีความหวังมากขึ้น หลังจากนั่งรอ นอนรอบนกล่องใบใหญ่นั่น เขามองเห็นเรือเดินทะเลลำหนึ่ง กำลังแล่นตรงมาที่เขา เมื่อมันแล่นมาอยู่ใน ระยะที่สายตามองเห็น เขาจำได้ มันคือเรือของ หลุยส์ ไชยยงค์. ลีอองดีใจมาก ตะโกน และโบกสัญญาณด้วยผ้า ให้คนบนเรือมองเห็น.

หลุยส์ ส่องกล้องทางไกล และมองเห็นลีออง ให้สัญญาณขอความช่วยเหลือ. เขาเริ่มโฟกัสความคิด, เพราะเหตุใด ลีออง จึงถูกทิ้งให้ลอยอยู่กลางทะเล อย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้ หากเลวิสจะฆ่าเขาเสีย ก็ทำได้ไม่ยาก แต่ดูเหมือนเป็นการจงใจ ที่จะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้.

ภาพในสมองของเขาผุดขึ้นมา ...

<flash back scene>

คืนที่พวกเขาพักแวะเติมน้ำ อาหาร ที่เกาะแห่งนั้น, บรรยากาศความขัดแย้งสงบลง แต่ทิ้งร่องรอยความไม่พอใจแก่ เรย์ หลุยส์ และ เลวิส. ในความขัดแย้งของพวกเขา มีความรู้สึกร่วมอยู่อย่างหนึ่ง เรย์ หลุยส์ และ เลวิส ต่างสบตากัน และแฝงนัยสำคัญ ซึ่งมีเพียงเขาสามคนเท่านั้นที่รู้.

<end flash back scene>

หลุยส์ ลดกล้องส่องทางไกลลงแนบกับอก พูดกับตัวเองว่านี่คือการแข่งขัน เขาต้องไม่แพ้. หลุยส์ สั่งให้ลูกเรือแล่นเรือต่อไป ด้วยความเร็วที่เร่งสุดกำลัง เท่าที่เขายัดใส่นวัตกรรมให้แก่เรือของเขา จนทำให้มันดูมีความซับซ้อนยากที่จะเข้าใจ. ลูกเรือต่างพากันแปลกใจ และโห่ร้องยินดี ที่เรือของพวกเขาแล่นได้เร็วกว่าปกติ.

นกทะเล บินกลับมาที่ชายชราแห่งท้องทะเล อีกครั้ง ขณะที่เขากำลังต่อสู้กับคลื่นยักษ์ ของอสูรทะเลที่บ้าคลั่ง มันพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเขา และเขาก็เข้าใจ. เขาทำอะไรได้ไม่มากไปกว่า รอจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ. และในที่สุด คลื่นยักษ์ของอสูร ก็ยอมแพ้ ชายชราแห่งท้องทะเลและนกของเขา ก็ผ่านพ้นออกไป จากที่นั่นได้.

นกทะเลบินถลาออกไปข้างหน้า หายไปครู่หนึ่ง แล้วก็บินกลับมา เพียงครู่เดียว ชายชราแห่งท้องทะเลก็พบกับ ลีออง นั่งอย่างหมดอาลัยในชีวิตบนกล่องใบใหญ่. ชายชราแห่งท้องทะเล ช่วยชีวิตของลีอองไว้ พาเขาขึ้นเรือ เขาแนะนำตัว ชื่อ อาเธอร์ ลู และนกของเขา เรียกมันว่า ลู ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเขา ลีออง แนะนำตัวและกล่าวขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้. มิตรภาพระหว่าง มนุษย์สองคนกับนกทะเลอีกหนึ่งตัว ก็เริ่มขึ้น.

ลีออง เล่าเรื่องราวของเขาให้ อาร์เธอฟังแบบคร่าวๆ เขาเสียใจที่ไม่สามารถรักษาแผ่นที่ลายแทงไว้ได้ อาร์เธอ บอกกับเขาว่า เขาถูกเพื่อนทรยศหักหลังเสียแล้ว มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ถ้ามีความโลภเข้ามา มิตรภาพจะหายไป ความซื่อสัตย์และการมีอุดมการณ์ของเขา อาจทำให้เพื่อนของเขาไม่ชอบ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องถูกทิ้งลงทะเล ลีอองบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่อาร์เธอแย้งว่า มันเป็นเจตนาของคนฉลาดและขี้โลภ เขาเคยผ่านพบคนประเภทนี้มามากต่อมากแล้ว ความซื่อสัตย์ของ ลีออง เป็นสิ่งดี น่ายกย่อง แต่ต้องใช้ให้ถูกคน, ไม่รู้ว่า อาร์เธอ ชื่นชมหรือเสียดสี ลีออง กันแน่.

อาร์เธอ กับลีออง แล่นเรือผ่านมาได้วันเดียว ท้องเรือก็ปะทะกับหินโสโครก ใกล้เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง. เรือเสียหายมาก จนต้องจอดแวะพักที่เกาะเล็กๆ แห่งนี้ เพื่อซ่อม.

ตลอดครึ่งวัน พวกเขาและเจ้าลู เดินสำรวจไปรอบๆ เกาะ โชคดีที่เกาะเล็กๆ นี่ มีทุกอย่างเกือบสมบูรณ์ ทั้งถ้ำ หาดทราย โขดหินและลานหิน ที่ใจกลางเกาะเป็นป่าเล็กๆ มีน้ำจืด และพอที่จะหาอาหารได้.

อีกสองวันต่อมา เรือของ บีโม เรย์ ก็ผ่านมาที่เกาะนี้. ขณะที่ ลีออง ให้สัญญาณโบกผ้าเป็นสัญลักษณ์ขอความช่วยเหลือ อาร์เธอ ก็หาที่หลบซ่อน เกรงว่าอาจเป็นคนที่กำลังตามล่าเขาก็ได้. เรย์ส่องกล้องดู ก็รู้ว่าเป็นลีออง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทำไม ลีออง จึงมาติดอยู่ที่เกาะนี่ เรย์ แสดงความไม่พอใจเล็กน้อย ด่าเลวิสในใจ ต้องเป็นเขาแน่ๆ ที่จับลีอองโยนทิ้งทะเล เพื่อริบส่วนแบ่งสมบัติของเขามาเป็นของตัวเอง เขาจะทำอย่างไรดี ระหว่างทิ้งเพื่อนไว้กลางทะเลแบบนี้ หรือจะช่วยเขาไปล่าสมบัติด้วยกัน และถ้าลีอองเอาแผนที่ลายแทงติดมือมาด้วย ก็นับว่าเป็นโชคของเขา และเป็นโชคของลูกเรือของเขาด้วย ที่การมาล่าสมบัติครั้งนี้ ไม่เสียเที่ยว ในที่สุด เขาก็ได้ข้อสรุป.

<flash forward scene>

เรย์ เก็บกล้องส่องทางไกล และตัดสินใจเอาเรือเล็กลงทะเล แล่นไปที่เกาะ เพื่อไปรับลีอองขึ้นเรือ. ลีอองพยายามตามหา อาร์เธอ เพื่อพาเขาไปด้วย แต่อาร์เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขารออยู่นาน จนแน่ใจว่าหาอาร์เธอไม่พบแน่แล้ว ลีออง จึงขึ้นเรือเล็กไปกับ เรย์.

เมื่อขึ้นเรือใหญ่แล้ว เรย์ ถามหาแผนที่ลายแทง ลีออง บอกความจริงว่า เขาไม่ได้เอามาด้วย มันอยู่กับเลวิส หลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุตกจากเรือ. เรย์ มีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาคงผิดหวังไม่น้อย คราวนี้เขาแอบด่าเลวิสในใจ ว่าไอ้เพื่อนทรยศ แต่พอมาทบทวนว่า ลีอองคงไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เขาจะทำอย่างไรกับ ลีออง ครั้นจะจับโยนทิ้งทะเล ก็ทำไม่ลง เพราะยังเห็นแก่ความเป็นเพื่อน.

และเมื่อ เรือของ บีโม เรย์ มาถึงเกาะเซอร์กาเป็นคนสุดท้าย เขารู้สึกว่ามีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น เขาบอกให้ลีออง รอเขาอยู่บนเรือ เขาจะเป็นคนไปเจรจากับสหายทั้งสองด้วยตนเอง. เรย์ รู้ความจริงว่า สมบัติที่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอสำหรับเขาและลูกเรือ. เรย์โกรธมาก ที่สหายทั้งสอง ไม่เหลือทรัพย์สมบัติไว้ให้เขาเลย. เรย์ มีปากเสียงกับ เลวิส อย่างรุนแรง ว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัว จับลีอองโยนทิ้งทะเล จนกระทั่งเขาไปพบและนำขึ้นเรือมาด้วย และถ้าลีออง ถามหาส่วนแบ่ง จะให้เขาทำอย่างไร.

ลีออง มาถึง ก็เห็นสหายทั้งสาม ยืนถืออาวุธประจันหน้ากันแล้ว. และได้ยินเสียงของเลวิส ตะคอกใส่หน้า เรย์ว่า นั่นแหละ คือตัวปัญหาละ รู้อย่างนี้ รับขึ้นเรือมาด้วยทำไม. คราวนี้ ลีออง รู้ความจริง เขาเสียใจที่ถูกเพื่อนทรยศ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ควรมีส่วนแบ่งในสมบัตินี้ด้วย.

<end of flash forward scene>

บีโม เรย์ ได้ข้อสรุปใหม่ เขาคิดว่า ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนๆ ในภายหลัง และต้องการลดตัวหารในส่วนแบ่งสมบัติเซอร์กา เรย์ เก็บกล้องส่องทางไกล สั่งให้ลูกเรือ เร่งเดินเรือต่อไปให้ทันเรือของเลวิส ที่ไปล่วงหน้าหลายวันแล้ว.

หลังจากเรือของ เรย์ หายไปจากขอบฟ้าแล้ว อาร์เธอ ก็ปรากฏตัว มายืนอยู่ที่ข้างหลังลีออง. ลีออง เสียใจมาก ที่ถูกเพื่อนปฏิเสธทั้งสองคน ถ้าเขาไม่ประสบอุบัติเหตุตกจากเรือ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้. อาร์เธอ บอกกับเขาว่า นั่นไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก แต่เป็นเจตนาต้องการกันเขาออกจากส่วนแบ่ง แต่เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด จึงทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ และที่สหายของเขาผ่านมาที่เกาะนี่ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่เขาหลงทางต่างหาก เพราะชั่วชีวิตของเขา เขารู้จักกับเส้นทางเดินเรือบนโลกใบหนี้มากกว่าทุกคน แต่ที่เกาะนี่ เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า มันหลุดรอดจากสายตาของเขาได้อย่างไร.

การซ่อมเรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น พวกเขาต้องใช้ชีวิต บนเกาะที่เงียบเหงานี้ต่อไป รอจนกว่าจะมีเรือหลงทางผ่านมา. เพื่อทำลายความเงียบเหงา ไม่มีอะไรดีไปกว่า การเล่าเรื่องราวสู่กันฟัง.

อาร์เธอ บอกว่า เกาะนี้มีข้อดีตรงที่ มีที่หลบซ่อนอย่างดี ลีออง เกิดข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใด อาร์เธอต้องคอยหลบซ่อนผู้คน เขากลัวอะไร และหลบซ่อนเช่นนี้ มานานเท่าใดแล้ว. อาร์เธอไม่ตอบ แต่เขาหักเหความสนใจของลีออง โดยถามเขาไปว่า รู้จักคลิสตัลแห่งกาลเวลาได้ดีแค่ไหน. ลีออง เล่าให้อาร์เธอฟังเท่าที่รู้ อาร์เธอ เล่าเสริมว่า ลีอองยังไม่รู้พลังด้านลบของมัน เมื่อผลึกนั่นสัมผัสกับแสงอาทิตย์ มันจะดูดกลืนอายุขัยของสิ่งมีชีวิต ที่อยู่รอบรัศมีพลังของมันไปด้วย. ลีอองถามว่า ในเมื่อคริสตัลแห่งกาลเวลา เป็นสมบัติของจักรวาล ทำไมเทพอมตะ จึงไม่ปกป้องมันเสียเอง อาร์เธอ ตอบว่า ก็เพราะเทพอมตะไม่มีร่างที่จะบดบังแสงอาทิตย์ได้ จึงมอบหมายให้ เทพนิลกาฬ เป็นผู้พิทักษ์ แต่เทพนิลกาฬ ไม่ทำตามสัญญา เทพอมตะ จึงมอบภารกิจนี้ ให้กับมนุษย์เป็นผู้พิทักษ์ และเก็บซ่อนรักษามันไว้. ลีออง ถาม อาร์เธอว่า เขาเคยเห็นผลึกคริสตัลนั่นหรือ และใครคือผู้พิทักษ์ อาร์เธอตอบว่า เขาก็รู้มาแค่นั้น นั่นเป็นแค่คำเล่าลือ จนกลายเป็นตำนานไปแล้ว ลีอองหัวเราะ ที่แท้ อาร์เธอ ก็มีความรู้ไม่ต่างไปจากเขาสักเท่าไหร่ อาร์เธอก็หัวเราะตาม รวมทั้งเจ้า ลู ด้วย.

ลีออง กล่าวขอบคุณ อาร์เธอ ด้วยใจจริง ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เหมือนเกิดใหม่ เขาจะไม่ลืมบุญคุณ จากนั้นก็เล่าเรื่องของตัวเอง ครอบครัว ประสบการณ์การผจญภัย ให้อาร์เธอฟังอย่างละเอียด.

พวกเขามีเวลาอีกมากมาย ที่จะเล่าประสบการณ์ต่างๆ แลกเปลี่ยนกัน, ครั้งหนึ่ง ลีออง คาดเดาอายุของอาร์เธอ ร้อยปี ห้าร้อยปี พันปี อาร์เธอเย้าว่า ตัวเลขหมื่นปีหายไปไหน แล้วพากันหัวเราะ. อาร์เธอเล่าประสบการณ์ ที่ครั้งหนึ่งเขามีชีวิตอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งอันยาวนาน เกาะแห่งนั้น มีหาดทรายกันกว้างใหญ่ รายล้อมด้วยทะเลอันเวิ้งว้าง ผู้คนต่างมีมุมมองต่อทะเลแตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ.

เด็กชายคนหนึ่ง เอาของเล่นออกมาเล่นที่ชายหาด เขาเล่นเพลินจนลืมทิ้งสิ่งของไว้ที่ชายหาด คลื่นทะเลก็พัดสิ่งของเหล่านั้น พาจมหายไปในทะเล ตกค่ำ เด็กชายมาตามหาสิ่งของของเขา เขาก็ไม่พบมันแล้ว เขาเสียใจมาก เขียนข้อความไว้บนหาดทรายนั้นว่า ทะเลคือขโมย เขาหวังว่าทะเลจะคืนของเล่นให้แก่เขา นั่นเป็นความคิดของเด็ก วันรุ่งขึ้น ข้อความที่เขาเขียนก็หายไปเพราะคลื่นทะเล.

พอเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีอาชีพประมง วันหนึ่ง เขาออกไปจับปลาได้ปลามากมาย โดยไม่ยาก พอกลับถึงฝั่ง เขาก็ขอบคุณทะเล ด้วยการเขียนข้อความไว้บนผืนทรายนั้นว่า ทะเลคือผู้ให้ เป็นคำกล่าวขอบคุณ แต่แล้วในเวลาไม่นาน ข้อความนั้น ก็ถูกคลื่นพัดพาหายไปกับน้ำทะเล.

ต่อมาไม่นาน ภรรยาก็มีลูกชายให้แก่เขา จนลูกชายของเขามีอายุได้ 10 ปี เห็นว่าน่าจะเรียนรู้เกี่ยวกับทะเลได้แล้ว เขาก็พาลูกออกไปจับปลาด้วย แต่วันนั้นโชคไม่ดี เกิดคลื่นลมทะเลบ้าคลั่ง ทำให้เขาต้องสูญเสียลูกชายไป เขาและภรรยาของเขาเสียใจมาก ภรรยาของเขาตัดพ้อต่อว่าทะเล ด้วยการเขียนข้อความไว้บนผืนทรายแห่งนั้นว่า ทะเลคือฆาตกร ที่คร่าชีวิตลูกชายของเธอไป ไม่นาน ข้อความนั้นก็ถูกลบเลือนไปด้วยแรงคลื่นทะเลเช่นกัน.

ต่อมา เขากับเพื่อนๆ พากันออกล่าหาสมบัติไปตามเกาะต่างๆ จนกระทั่งไปพบไข่มุกล้ำค่าบนเกาะไข่มุก และเขาก็ขนมันกลับมา นำมาขายได้เงินมากมาย เพื่อนของเขารู้สึกขอบคุณในโชคชะตา แต่เขากล่าวขอบคุณทะเล ด้วยการเขียนข้อความไว้บนผืนทรายว่า ทะเลคือผู้ให้โชค เพียงแค่ไม่กี่นาที ข้อความนั้นก็หายไปกับแรงคลื่นทะเล.

ทะเลจะไม่ถือสา สิ่งที่มนุษย์คิด มนุษย์กระทำ ทะเลมีช่วงอายุนานกว่ามนุษย์มากมาย ย่อมเห็นความจริงแท้ของทุกสรรพสิ่ง อาร์เธอสรุปว่า ทะเลคือความยิ่งใหญ่ ย่อมมีจิตใจที่หนักแน่น อดทน สามารถรับคลื่นอารมณ์ของมนุษย์ รองรับได้ทั้งสิ่งของโสโครกและสิ่งของที่มีค่า และทะเลย่อมให้บทเรียนความสูญเสียบ้าง เพื่อรักษาความสมดุล เพราะในโลกใบนี้ มิใด้มีเพียงมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งมีชีวิตเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เจ้าของของโลก แต่เป็นเพียงแขกที่มาศัยชั่วเคราว ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป อายุขัยของสรรพสิ่งนั่นแหละ คือปัจจัยที่ทำให้ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่เป็นหายนะและความโชคดี.

ลีออง ซึมซับประสบการณ์ต่างๆ จากอาร์เธอโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาเข้าใจโลก ชีวิตของมนุษย์ และปรากฏการณ์ต่างๆ.

เวลาผ่านไป 10 วัน ลีออง นั่งรอที่โขดหินริมหาด หวังว่า อาจจะมีเรือแล่นหลงผ่านมา. ขณะนั้นเขาสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งที่ขอบฟ้า เริ่มเคลื่อนใกล้เข้ามา เขาแสดงความดีใจ แล้วโบกผ้าให้สัญญาณขอความช่วยเหลือ. เวลาผ่านไป เขาเริ่มไม่แน่ใจในสิ่งที่เขาทำ คนพวกนี้แต่งกายคล้ายพวกโจรสลัด เรือเล็กของคนพวกนี้จู่โจมเข้ามาเร็วมาก ขณะที่ลีอองลังเล เขาก็ถูกล้อม. ลีอองจึงแน่ใจว่า พวกนี้คือโจรสลัด เขามองไปรอบๆ ด้วยความกังวล ภาวนาให้อาร์เธอ อย่าอยู่ในบริเวณนี้เลย.

ลีออง ทำท่าจะหนี แต่ไม่ทันแล้ว เขาถูกสมุนโจรอีกสองคนประกบข้าง เขามองเห็นโจรผู้หนึ่ง เดินลงมาจากเรือเล็ก ตรงมาที่เขา การแต่งกายก็ดูบ่งบอกว่า เขาน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรพวกนี้ ตาบอดข้างหนึ่ง หน้าบากด้านหนึ่ง สมุนโจรผู้หนึ่ง ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของลีออง เรียกชื่อเขาว่า แคร์กเกอร์ ลีอองหน้าถอดสีทันที เพราะแค่ได้ยินกิตติศัพท์ความโหดเหี้ยม ก็น่ากลัวแล้ว แต่ที่เห็นต่อหน้านี่ คือ แคร็กเกอร์ เปโรสะเปโร จอมโจรสลัดตัวจริง.

ลีออง แอบมองไปรอบๆ อีกครั้ง ไม่เห็นอาร์เธออยู่ที่นี่จริงแล้ว ก็เบาใจไปอีกหน่อย เขากำลังทำใจ ยอมรับสภาพการเผชิญหน้ากับอสูรร้ายในร่างของมนุษย์ ที่อาจร้ายกาจกว่าอสูรแห่งท้องทะเลก็ได้. แคร็กเกอร์ ยืนต่อหน้าลีออง เขาเกริ่นนำว่า เมื่อไม่กี่วันเขาแล่นเรือตามหาเฒ่าทะเลคนหนึ่ง ซึ่งติดหนี้เขา เขาจำเป็นต้องหาตัวให้พบ เขาแน่ใจว่า เฒ่าทะเลจะผ่านมาที่เกาะนี้. ลีออง บอกว่ามีเขาเพียงคนเดียวที่อยู่บนเกาะนี้ เขาได้รับอุบัติเหตุตกจากเรือ และลอยมาติดที่เกาะนี้ แต่แคร็กเกอร์ ไม่เชื่อ เพราะคนที่รอดชีวิตมาอยู่บนเกาะนี้ได้ จะต้องได้รับการช่วยเหลือ จากนักท่องทะเลที่มีความชำนาญ ไม่เช่นนั้น จะรอดชีวิตได้ยาก อย่าให้เขาต้องเสียเวลา ให้บอกที่ซ่อนของเฒ่าทะเลมาเดี๋ยวนี้.

ลีออง กัดฟัน ทบทวนชีวิตของตัวเอง ความจริงเขาตายไปแล้ว แต่ที่เขารอด เพราะการช่วยเหลือจากอาร์เธอ เขาจะไม่ทรยศต่อผู้มีพระคุณเป็นอันขาด. แคร็กเกอร์ ตบหน้าลีออง เพื่อให้บอกความจริง. ลีอองคิดในใจ ความตายกับความเจ็บปวด คือทางเลือกของเขาในตอนนี้.

แคร็กเกอร์ สั่งให้สมุนออกค้นหาให้ทั่วเกาะ สมุนชุดแรกกลับมารายงานว่า ไม่พบใครเลย ขณะที่ร่างของลีอองก็สะบักสะบอมไปไม่น้อย. แคร็กเกอร์ โกรธมาก ที่ทำให้เขาเสียเวลา เขาจึงใช้มีดจี้ที่ดวงตาของลีออง ลีออง รู้ว่านี่มิใช่การขู่. การทำใจรับสภาวะไว้ล่วงหน้า อาจเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเจ็บปวดได้บ้าง, ลีออง ถูกควักดวงตาด้านขวา เขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แต่แคร็กเกอร์ไม่สนใจ จนกระทั่งสมุนโจรชุดที่สองกลับมา บอกว่าพวกเขาก็ไม่พบใครเลยบนเกาะนี่. แคร็กเกอร์ คิดในใจครู่หนึ่ง มองร่างของ ลีออง ก็สั่งให้สมุนโจรกลับลงเรือ ผละจากไป.

เมื่อพวกโจรไปกันหมดแล้ว อาร์เธอ ก็ปรากฏตัว, เขารู้สึกหดหู่ใจมาก กล่าวขอโทษที่ไม่ได้ออกมาช่วยเขา ลีอองบอกไม่ใช่ความผิดของอาร์เธอ. อาร์เธอ พยุงลีอองไปที่ถ้ำ พยาบาลรักษาบาดแผลด้วยสมุนไพร ด้วยความทนุถนอม เขารู้สึกซาบซึ้งในความซื่อสัตย์ของลีออง ก็ตอนนี้. ลีออง ถามเขาว่า เพราะเหตุใด พวกโจรสลัดจึงเจาะจงตามล่าเขา อาร์เธอ รู้สึกอึดอัดที่จะตอบคำถามเขา เขาบอกแต่เพียงว่า แคร็กเกอร์ อาจเข้าใจผิดว่า เขารู้ที่ซ่อนคริสตัลแห่งกาลเวลาก็ได้ ซึ่งใครๆ ก็ปรารถนามัน โดยเฉพาะพวกโจรสลัด.

ลีออง ส่ายหน้ายิ้มเล็กน้อย รับคำตอบ มันก็แค่คำเล่าลือ ลีออง ขอร้องให้อาร์เธอเล่าเกี่ยวกับคริสตัลแห่งกาลเวลา เพื่อคลายความปวด.

มนุษย์ผู้โง่เขลาและบ้าอำนาจ ต่างต้องการครอบครองคลิสตัลแห่งกาลเวลา เพื่อใช้สนองความโลภของตน โดยพวกเขาไม่รู้หายนะภัยที่จะตามมา เพียงแค่หนึ่งนาที มันจะกลืนกินอายุของมนุษย์ผู้นั้นไปสิบปี. หากยังปล่อยให้มันแสดงพลังด้านมืดต่อไป มันก็จะดูดกลืนเวลาของทุกสรรพสิ่งที่อุบัติขึ้นในโลก รวมทั้งดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ ดาราจักรจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็วเป็นทวีคูณ.

ลีอองรู้สึกประหลาดใจ ที่อาร์เธอรู้อะไรเกี่ยวกับคริสตัลแห่งกาลเวลาดีกว่าเขามาก จึงถามอาร์เธอว่า เขาเป็นใครกันแน่ อาร์เธอ บอกว่ามันก็แค่ตำนาน แต่ลีอองไม่เชื่อ ลีอองอุตส่าห์ยอมสูญเสียดวงตา เพื่อแลกกับอิสรภาพของเขา แค่นี้ยังมีเหตุผลไม่พอที่จะทำให้เขาไว้ใจได้อีกหรือ. การปฏิเสธคำถามของลีออง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาเริ่มขุ่นมัว ลีอองเริ่มไม่ไว้ใจเขา และสงสัยในตัวของอาร์เธอ ว่าที่แท้จริงเขาเป็นใครกันแน่. สถานการณ์เช่นนี้ ความหนักใจตกแก่อาร์เธอ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.

ผ่านไปอีก 2 วัน ตอนสายๆ วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง, เรือของหลุยส์ ไชยยงค์ ก็ผ่านมาที่เกาะนี้ ราวกับจงใจหรือมีคนชี้เป้า. อาร์เธอไม่ไว้ใจแขกลึกลับที่มาเยือน เขาจึงหลบไปหาที่ซ่อน ปล่อยให้ลีอองอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว ลีออง เดินออกมาจากปากถ้ำที่พัก ขณะที่อาร์เธอแอบดูเหตุการณ์ ห่างออกไปไม่ไกล เขายังเป็นห่วงอาการเจ็บของลีออง แต่ในยามนี้เขาก็ยังไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น มันเป็นนิสัยของเขามาตั้งแต่แรก.

ลีออง ออกไปต้อนรับหลุยส์ และลูกเรือของเขาที่ลานหินริมชายหาด เท่าที่กะด้วยสายตา มีแค่ 10 คน คิดว่าที่เหลือคงรออยู่บนเรือ เขากล่าวทักทาย และแสดงความยินดี เพื่อนคงได้สมบัติมาเต็มลำเรือ. แต่กิริยาตอบรับของหลุยส์ แสดงความไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนแต่ก่อน. เขาไม่สนใจด้วยซ้ำไปว่า ดวงตาข้างหนึ่งของลีอองหายไป เขาเดินดูรอบๆ บริเวณลานหิน แล้วถามเจาะจงว่า เฒ่าทะเลอยู่ที่ไหน เขามั่นใจว่าตาเฒ่านั่นต้องอยู่บนเกาะนี้ เพราะเขาเห็นเรือที่ซ่อนไว้ข้างเกาะ โชคดีนะที่พวกโจรมันมองไม่เห็น.

ลีออง เริ่มประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมด เกี่ยวกับ อาร์เธอ คริสตัลแห่งกาลเวลา แต่เขาก็ยังไม่กล้าสรุปอยู่ดี. หลุยส์ ยื่นมือมาขยุ้มอกเสื้อของลีอองเข้ามาใกล้ๆ ความรู้สึกแบบมิตรภาพหายไป เขาถามซ้ำให้บอกที่ซ่อนของเฒ่าทะเล แต่ลีอองก็ยังไม่ปริปาก ทำให้หลุยส์โกรธมาก ไม่เหลือความเป็นเพื่อนอยู่เลย. หลุยส์มองหน้าลีออง ลีอองคิดว่า เขาคงไม่โหดร้ายเหมือนแคร์กเกอร์แน่ๆ แต่เขาคิดผิด ความโลภเข้าครอบงำ มิตรภาพก็หายไป ความโกรธเข้าสิ่งสู่ ความโหดร้ายก็แสดงผล. หลุยส์สั่งให้ลูกเรือสองคน จับลีอองคุกเข่า ชักมีดคู่ตัว ชี้ไปที่ใบหน้าของลีออง ถ้าไม่บอกที่ซ่อนของเฒ่าทะเล ดวงตาอีกข้างจะไม่มีให้เหลือ ลีอองไม่คิดว่าเพื่อนจะโหดร้ายยิ่งกว่าโจรสลัดแคร็กเกอร์ ซึ่งมันยังเหลือดวงตาให้เขาอีกข้าง.

ในนาทีวิกฤตเช่นนี้ อาร์เธอไม่อาจทนดูอยู่ได้ เขาออกจากที่ซ่อน ลู นกทะเลผู้ซื่อสัตย์ ส่งเสียงร้อง ราวกับจะบอกเขาว่า อย่าออกไป. อาร์เธอ ตะโกนให้หลุยส์หยุดและปล่อยลีอองไป เขาเดินมาที่ลานหิน ลูกเรือของหลุยส์ซึ่งตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับโจรสลัด เข้าประกบตัวของอาร์เธอไว้กันหนี. ลีอองรู้สึกแปลกใจ ที่ได้ยินหลุยส์บอกว่า นี่แหละผู้พิทักษ์คริสตัลแห่งกาลเวลาตัวจริง. อาร์เธอต้องการซื้อเวลาชีวิตของลีอองและของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม ลีอองสงสัย จึงถามหลุยส์ว่า เขารู้ได้อย่างไรว่า อาร์เธอคือผู้พิทักษ์ ที่สามารถจะบอกที่ซ่อนของคริสตัลแห่งกาลเวลาได้ เขาอยู่กับอาร์เธอกว่าสิบวัน ยังไม่รู้เลย.

หลุยส์ หัวเราะ ในความโง่และความซื่อของอดีตเพื่อนรัก อย่างไรเสีย เขาก็ขอบคุณที่ให้เขามีส่วนร่วมในแผนที่ลายแทงนั่น ทำให้เขามีความหวัง และเขาก็เกือบจะสมหวังอยู่แล้ว. หลุยส์ ระบายความผิดหวังในโชคชะตา ผ่านคำบอกเล่าว่า ...

<flash back scene>

หลังจากได้สมบัติมาครึ่งลำเรือ หลุยส์กับลูกเรือต้องฝ่าคลื่นทะเลที่ปั่นป่วนอย่างหนัก และเขาก็ผ่านมันไปได้ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับเรือของจอมโจรสลัด แคร็กเกอร์ เปโรสะเปโร และเกิดการต่อสู้กัน. แม้เขาจะมีกลยุทธ์การต่อสู้เหนือกว่า แต่พวกโจรมีจำนวนมากกว่า เขาจึงยอมแพ้ และสูญเสียสมบัติที่ล่ามาได้ให้แก่ แคร็กเกอร์ เพื่อแลกกับชีวิตของเขาและลูกเรือที่เหลือแค่สิบคน.

การยอมแพ้ของหลุยส์ ทำให้แคร็กเกอร์พอใจ. หลุยส์บอกว่า เขาให้สมบัติพวกนี้แล้ว แคร็กเกอร์ ก็ควรตอบแทนเขาบ้าง แคร็กเกอร์หัวเราะ ตั้งแต่เขาเป็นโจรสลัด ยังไม่มีเชลยคนไหนต่อรองกับเขาแบบนี้. แคร็กเกอร์ บอกแค่ว่า ผู้พิทักษ์ที่จะบอกที่ซ่อนครัสตัล มีตัวตนจริง แต่เขาไม่อยากเสียเวลาไปกับมัน เขาเลือกเอาสมบัติที่กองอยู่นี่ดีกว่า เขาเพิ่งไปที่เกาะหนึ่งเมื่อไม่กี่วัน เห็นมีแค่ชายหนุ่มคนเดียว แต่เขาก็โชคร้าย เพราะไม่ยอมบอกที่ซ่อนของตาเฒ่าทะเลนั่น แม้จะยอมแลกกับดวงตาข้างหนึ่ง มันคงจะไม่รู้จริงๆ. แคร็กเกอร์ เชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มคนนั้นบอก แต่หลุยส์ไม่เชื่อ.

<end flash back scene>

เมื่อความจริงปรากฏ จะปกปิดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์, อาร์เธอ จึงหยิบสิ่งหนึ่งที่อยู่ติดตัวออกมา มันบรรจุอยู่ในถุงหนังสัตว์ แล้วชูขึ้น บอกว่า นี่คือสิ่งที่หลุยส์ต้องการ แล้วต่อรองแลกชีวิตเขากับลีออง.

หลุยส์ ผละจาก ลีออง ตรงไปที่ อาร์เธอ และรับมันมา พิจารณาดู มันคือผลึกแก้วหินสีเงิน ขนาดเท่าไข่นกกระทา.

อาร์เธอ ส่งสายตาให้ลีออง เป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง, อาร์เธอ กำลังจะวิ่งหนีเอาตัวรอดเฉพาะหน้า แต่หลุยส์รู้ทัน เพราะหินก้อนนั้น ไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่เล่าลือ สิ่งนี้เป็นของปลอม. สมุนสองคน จับอาร์เธอไว้ ลากตัวเขามา บังคับให้คุกเข่า หลุยส์ตบหน้าอาร์เธอด้วยความโกรธที่หลอกเขา พร้อมกับชักดาบชี้ไปที่ใบหน้าของอาร์เธอ แล้วขู่บังคับ ให้มอบผลึกคริสตัลของจริงให้เขา. อาร์เธอบอกว่า ในเมื่อเขาคือผู้พิทักษ์ เขาคงจะให้สิ่งที่เขาพิทักษ์ไว้ไม่ได้. หลุยส์บันดาลโทสะ ใช้ดาบแทงเข้าไปที่ทรวงอกใกล้หัวใจของอาร์เธอ.

แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อดาบของเขากระทบสิ่งหนึ่งเข้า มันเริ่มเปิดเผยตัวตน. เขาเห็นแสงที่ส่องออกมาจากสิ่งนั้น ในทรวงอกของอาร์เธอ อาร์เธอร้องลั่นว่าอย่าแตะต้องมัน มันจะทำลายทุกสิ่งรวมถึงทุกๆ คนที่อยู่ที่นี่.

หลุยส์ พบสิ่งที่เขาค้นหามาแสนนาน ตลอดชั่วอายุของเขา มันไม่ใช่คำเล่าลือ ตำนานคริสตัลแห่งกาลเวลาถึงคราวต้องฉีกทิ้ง. ตอนนี้ เขากลายเป็นผู้ครอบครอบ สิ่งที่วิเศษสุดมหัศจรรย์ในจักรวาล เท่ากับว่า เขาคือผู้ชนะทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล. หลุยส์ ใช้ดาบควักเอาผลึกคริสตัลนั้น ออกมาจากทรวงอกของอาร์เธอ แล้วชูมันขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า เขาคือเจ้าแห่งจักรวาลตัวจริง.

ภาพต่างๆ บังเกิดขึ้นแก่เขาโดยรอบ เหมือนกับพายุหมุนบ้าคลั่ง คละเคล้าเสียงอื้ออึง มิติของเวลาถูกเปิด ราวกับปลดปล่อยทุกสรรพสิ่งให้เป็นอิสระ หลุยส์ ต้องมนต์เสน่ห์โดยไม่รู้ตัว เขามองเห็นอดีตและอนาคตในเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่ร่างของเขาเริ่มเหี่ยวย่น สมุนของเขาต่างก็จ้องมองผลึกที่อยู่ในมือของเขา และก็มีสภาพไม่ต่างกัน แขนข้างหนึ่งของลีอองเริ่มเหี่ยวย่นเช่นกัน.

ท้องฟ้าเริ่มมืดดำ อาร์เธอตะโกนบอกลีออง อย่าไปมองมัน และให้ไปหลบซ่อนตัว ที่หลังก้อนหินใหญ่. ลีออง ปฏิบัติตามทันที ก่อนที่ร่างของเขาทั้งหมดจะแก่เหี่ยวย่นไปทั้งตัว.

ลีออง หลบไปพ้นรัศมีการดูดของคริสตัลแล้ว แขนและผิวหนังที่ผิดรูปของเขา ก็กลับคืนสภาพเดิม เขาตั้งสติ ไม่หันไปมองเหตุการณ์โกลาหลที่กำลังเกิดขึ้น เสียงมันอื้ออึงไปหมด เสียงกรีดร้องของมนุยย์ เสียงคลื่นน้ำ ก้อนหินกระทบกระแทกกัน อื้ออึงอยู่ในโสตประสาท ราวกับตึกถล่ม โลกทลาย พลัน! ก็ปลากฎเงาดำมืดเงาหนึ่งขึ้น ที่บริเวณนั้น พร้อมกับ เหตุการณ์โกลาหล ค่อยๆ สงบลง.

ลีออง โผล่ใบหน้าออกไปมอง เงาดำทะมึนนั้น มาจากกลุ่มก้อนของปุยเมฆสีขาว ประกอบกันเป็นร่างใบหน้าของเทพองค์หนึ่ง. เขามองไปรอบๆ ไม่มีผู้ใดเหลืออยู่เลย แม้กระทั่งอาร์เธอและ ลู นกทะเลผู้ซื่อสัตย์ของเขา. ที่บริเวณลานกองหินปรากฏก้อนผลึกสีเงินใส วางอยู่ มันส่งประกายวับๆ แวมๆ ดูเหมือนว่ามันถูกอำนาจบางสิ่งกดทับมันไว้ ไม่ให้มันแสดงอิทธิฤทธิ์ เขาอุทานกับตัวเองว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่า ก้อนหินเล็กๆ เพียงก้อนเดียว จะมีพลังดูดสรรพสิ่งทั้งหมดในจักรวาล.

ลีอองต้องผงะ เมื่อมีเสียงห้าวต่ำ ดังขึ้นมาจากท้องฟ้าเบื้องบน. เทพอมตะ กล่าวกับลีอองว่า เขาเป็นบุคคลที่ซื่อสัตย์ และกล้าหาญเกินมนุษย์ มีคุณสมบัติเหมาะสม ที่จะเป็นผู้พิทักษ์ผลึกคริสตัลแห่งกาลเวลารุ่นต่อไป ส่วนอาร์เธอ เขาได้รับใช้เป็น ผู้พิทักษ์มานานกว่าหมื่นปี และเขาก็หมดวาระลงแล้ว. ลีออง กล่าวกับเทพอมตะว่า เขามีดวงตาเพียงข้างเดียว ไม่มีอาวุธ ไม่มีมนต์วิเศษใดๆ ที่จะปกป้องผลึกคริสตัลนี้ได้.

เทพอมตะ จึงส่งพลังไปยังก้อนผลึก ที่วางอยู่บนกองหิน เกิดปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ มันลอยตรงไปที่ลีออง และสวมสอดเข้าไป ที่ดวงตาที่บอดข้างหนึ่งของเขา และฝังซ่อนอยู่ในนั้น. เพียงชั่วครู่ ลีอองรู้สึกว่าดวงตาข้างนั้นของเขาแปลกไป เขามองเห็นภาพในอีกมิติหนึ่ง แต่แค่เพียงแว่บเดียวก็หายไป.

เทพอมตะจึงกล่าวกับลีอองว่า ต่อจากนี้ไป เขาคือผู้พิทักษ์คริสตัลแห่งกาลเวลา และจะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันอยู่ที่ใด มันได้ถูกเก็บซ่อนไว้ในที่ปลอดภัย คือดวงตาที่บอดสนิทของลีออง ต่อไปเรื่องราวของคริสตัลแห่งกาลเวลา ก็จะกลายเป็นแค่ตำนานเหมือนที่ผ่านมา. เทพอมตะ กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบแทนความซื่อสัตย์ เสียสละของเขา จนทำให้ดวงตาจริงเสียไป ลีออง จะสามารถมองเห็นภาพในมิติอื่นๆ เท่าที่เขาต้องการ แม้กระทั่งภัย ที่จะเกิดแก่เขาในอนาคต เขาจะมองเห็นศัตรู ก่อนที่จะเข้าถึงตัว ลีอองจะเป็นผู้พิทักษ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา.

กล่าวจบ เทพอมตะ ก็สลายจากไปพร้อมๆ กับเงาดำมืด ท้องฟ้ากลับมาสว่างไสว อีกครั้งหนึ่ง.

ลีออง มองไปรอบๆ อีกครั้ง ตรงที่เขายืนอยู่ แม้ห้วงเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่นาที หลังจากก้อนผลึกคริสตัลสัมผัสกับแสงอาทิตย์ มันได้ดูดกลืนอายุ และชีวิตของทุกคนที่นี่ และสร้างความย่อยยับให้แก่ก้อนหินในบริเวณนั้นไปไม่น้อย. เขามองไปที่ เรือของหลุยส์ ที่ยังคงจอดนิ่งห่างออกไปจากเกาะ มันยังอยู่ในสภาพดี อาจเป็นเพราะรัศมีและพลังการดูด ของก้อนผลึก ยังไปไม่ถึง. โชคดีที่เขายังมีเรือเดินทะเล เพื่อกลับบ้าน.

 

องก์ 3

ลีออง อำลาอาร์เธอด้วยความรักและศรัทธา เขาเก็บข้าวของที่จำเป็น และเดิน ไปที่ริมหาดของเกาะ เพื่อจะไปให้ถึงเรือ. ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงนกทะเล ร้องมาแต่ไกล. มันคือ ลู นกผู้ซื่อสัตย์ของอาร์เธอนั่นเอง มันยังอยู่ แต่เจ้านายของมันตายไปแล้ว เขาหมดวาระของการเป็นผู้พิทักษ์ แต่เจ้าลู ยังจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของผู้พิทักษ์ต่อไป.

หลังจากขึ้นเรือได้แล้ว มีเพียงเขาคนเดียวและนกทะเลอีกหนึ่งตัว ที่อยู่บนเรือ การผจญภัยล่าสมบัติครั้งนี้ เขาไม่ได้สมบัติติดตัวอะไรเลย แม้แต่ชิ้นเดียว กลับต้องสูญเสียดวงตาแบบมนุษย์ ไปข้างหนึ่ง. แต่เขาก็ได้รับสิ่งตอบแทน อีกอย่างหนึ่ง มันมีค่าและมีเกียรติ สูงส่งกว่าสิ่งอื่นใด นั่นเป็นเพราะ ความซื่อสัตย์ที่เขารักษามันไว้ยิ่งชีวิต. เขาได้ข้อสรุปว่า ความสุข ความฉลาด และชัยชนะ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ความซื่อสัตย์ต่างหาก ยั่งยืนและสำคัญกว่า. เวลากลืนกินสรรพสิ่ง แต่เวลาจะไม่กลืนกินตัวเอง.

ลีออง ถอนสมอเรือเสร็จ ก่อนที่เขาจะเริ่มกางใบเรือรับกระแสลม เพื่อเดินทางกลับบ้าน ก็ปรากฏภาพในมิติย้อนเวลาขึ้น ในหัวของเขา ...

<flash back scene>

ที่เกาะเซอร์กา เลวิส เหลียง แล่นเรือฝ่ามรสุม ไปถึงก่อน และเขาก็พบสมบัติโบราณมากมาย ตามลายแทง. เขาและลูกเรือ ช่วยกันขนลำเลียงสมบัติเหล่านั้น ขึ้นเรือ ขณะที่หลุยส์ ไชยยงค์ ก็แล่นเรือมาถึงในเวลาใกล้เคียงกัน เขาโกรธเลวิสมาก ที่แล่นเรือหนีเขาไป ถ้าเขาไม่มีความชำนาญในการเดินเรือ ก็คงมาไม่ถึงเกาะนี้. หลุยส์สั่งให้ลูกเรือ ช่วยกันขนสมบัติขึ้นเรือ จนเกือบหมดเกาะ.

ก่อนที่ เลวิส และ หลุยส์ จะถอนสมอเรือ. เรือของ บีโม เรย์ มาถึงเกาะเซอร์กาเป็นคนสุดท้าย. สมบัติที่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอสำหรับเขาและลูกเรือ. เรย์ โกรธมาก ที่สหายทั้งสอง ไม่เหลือทรัพย์สมบัติไว้ให้เขาเลย. จึงเกิดการต่อสู้ แย่งชิงทรัพย์สมบัติกันโกลาหล. หลุยส์ ฉลาดกว่า จึงแอบแล่นเรือ ออกจากเกาะได้ก่อน ขณะที่ เรย์ กับ เลวิส ยังคงต่อสู้กันชุลมุน. เลวิส มีกำลังคนน้อยกว่า จึงพ่ายแพ้ เขาต้องยอมสละสมบัติทั้งหมด ให้แก่เรย์ และสมุนของเขา เพื่อแลกกับชีวิต ลูกเรือของเขาถูกฆ่าตายไปเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่คน.

ในท้องทะเลอันปั่นป่วน คลื่นสูงราว 5 เมตร เรือของบีโม เรย์ ไม่อาจต้านทาน กระแสลมและคลื่นได้ มันจึงล่ม ณ ที่ตรงนั้น. ทะเลได้กลืนกินเรือ ที่บรรทุกทรัพย์สมบัติเซอร์กามาเต็มลำ และกลืนกินทุกชีวิตทั้งหมดที่อยู่บนเรือ.

มีเพียงเรือของ หลุยส์ เท่านั้น ที่รอดออกมาได้จากคลื่นทะเลที่ปั่นป่วนอย่างหนัก พร้อมสมบัติครึ่งลำเรือ. แต่เขาก็ต้องเผชิญกับเรือของจอมโจรสลัด ในเวลาต่อมา.

<end of flash back scene>

ลีออง แล่นเรือออกสู่ท้องทะเลกว้าง และหวังว่าเขาจะไม่เจอโจรสลัดระหว่างทาง เพราะมิฉะนั้น พวกโจรก็จะไม่ได้สมบัติอะไรเลยจากเขา.

 

THE END

 

Copy writer :

โชคชะตา ข้าไม่สน
Drive Good Lucky (2018)

SUDIN CHAOHINFA สู่ดิน ชาวหินฟ้า
dfilm school / www.igoodmedia.net
e-mail – sudin.expert@yahoo.com
phone – (+66) 6 5083 7931
Line ID – 0882919232
date – 1 August 2018

Story Length :

100 sec.

Theme :

ผลของความซื่อสัตย์ และการทรยศหักหลัง

Log Line :

ลาภ ยศ ตำแหน่ง การแข่งขัน ความฉลาด ความสุข บางครั้ง ไม่อาจได้มาเพราะ ความซื่อสัตย์. ห้วงเวลาเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ ความยั่งยืนของสิ่งเหล่านี้ นี่คือ สัจจะแห่งอมตธรรม.

Genre :

adventure | fantasy

 

คำอธิบายประกอบ ฉาก และ เรื่อง (mise–en–scene)

ตัวละคร (character)

ลีออง โช (Leon Sho) หนุ่มผู้มีอุปนิสัยซื่อสัตย์ จริงใจ รักษาคำมั่นสัญญา เป็นคนสายเลือดผสมอาทิตย์อุทัย-อิตาเลียน เป็นคนตัวเล็กกว่าเพื่อน สูงราว 165 เซนติเมตร มีใบหน้าคมสัน ดวงตาค่อนข้างกลมโต ผมหยิกเป็นลอน ดูสง่างาม. ลีออง โช ค่อนข้างมักน้อย รักครอบครัว แต่ก็ใฝ่รู้ ใฝ่การแสวงโชค เขามีความเชี่ยวชาญ ในการอ่านภาษาโบราณ และรู้จักสมบัติโบราณมากที่สุดคนหนึ่ง จนได้ฉายาจากเพื่อนๆ ว่าเป็น อินเดียน่า โจน ตะวันออก เขามีเรือลำเล็กๆ ลูกเรือแค่ 10 คน

ลีออง โช มีสหาย 3 คน คือ เลวิส เหลียง, บีโม เรย์ และ หลุยส์ ไชยยงค์ ซึ่งล้วนเป็นนักแสวงโชคในการเดินเรือ เขาแป็นผู้ค้นพบ แผนที่ลายแทง ขุมทรัพย์แห่งเกาะเซอร์กา และเป็นคนเดียวที่สามารถอ่านแผนที่ลายแทงได้.

หลังจากที่เขาได้รับมอบภารกิจ เป็นผู้พิทักษ์คริสตัลแห่งกาลเวลา อายุขัยของเขาจึงยาวนาน.

เลวิส เหลียง (Levis Liang) หนุ่มชาวจีน ผิวขาว ร่างสูงสง่า ผมยาว เป็นผู้มีปัญญาฉลาดที่สุด สุขุม พูดน้อย ซ่อนเร้น เขาเป็นนักแสวงโชคในการเดินเรือผู้หนึ่ง เรือของเขามีขนาดปานกลาง มีลูกเรือราว 30 คน.

บีโม เรย์ (Bimo Ray) เป็นชายร่างสูงใหญ่ และอ้วน หนวดเคราครึ่งใบหน้า มีเชื้อสายอินโดนีเซีย เคยเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชาวเลแห่งเกาะชวา แต่ชอบออกแสวงหาความสุข และการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามหมู่เกาะต่างๆ ในบรรดาเพื่อนสนิทของเขา บิโม เรย์ เป็นคนร่ำรวยที่สุด มีเรือที่ค่อนข้างทันสมัยและลำใหญ่ มีลูกเรือกว่าร้อยชีวิต.

หลุยส์ ไชยยงค์ (Luis Chaiyong) ผิวดำแดง คิ้วเข้ม ท่าทางทะมัดทะแมง สูง 170 เซนติเมตร เกิดในดินแดนสุวรรณภูมิ มีเชื้อสายเป็นทายาทจอมโจรสลัดในตำนาน แจ็ค สแปโรว์ มีอุปนิสัยชอบท้าทาย แข่งขัน ไม่ว่าการแข่งขันใดๆ ทั้งในเชิงกีฬา การต่อสู้ กลยุทธ์ เมื่อเขาตัดสินใจเข้าสู่สนามแข่งแล้ว เขาจะได้รับชัยชนะเสมอ. เรือของเขามีขนาดปานกลาง ดูภายนอกค่อนข้างซับซ้อน เพราะภายในมีกลไกไว้ป้องกันตัว และการต่อสู้ เขามีลูกเรือ 30 คน แต่ละคนล้วนเป็นคนมีฝีมือทั้งการเดินเรือและการต่อสู้.

อาร์เธอ ลู (Arthur Lou) มนุษย์ ผู้ผ่านกาลเวลามาหนึ่งหมื่นปีแล้ว ได้รับบัญชาจากเทพอมตะ ให้เป็นผู้พิทักษ์ผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลา เขาเป็นผู้พิทักษ์รุ่นล่าสุด เขาเก็บผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลา ฝังไว้ในร่างใกล้กับหัวใจ. อาร์เธอ มีสหายผู้ซื่อสัตย์ เป็นนกทะเล ชื่อ ลู ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเขา ที่คอยเฝ้าและช่วยเหลือเขามาตลอด ลู ทำหน้าที่ดุจกล้องส่องทางไกลให้แก่อาร์เธอ เพื่อส่องหาอาหาร ที่พักพิง ตลอดจนการหลบหลีก ซ่อนอำพรางตัว จากศัตรูและเหล่าคนร้าย.

เทพอมตะ เทพผู้ค้นพบ ผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลา เนื่องจาก เทพอมตะ ไม่มีร่างที่จะบดบังแสงอาทิตย์ได้ จึงไม่อาจรักษาผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลาไว้ได้ ครั้งก่อนได้มอบหมายให้ เทพนิลกาฬ (Darkmatter) เป็นผู้รักษา แต่ก็ถูกทรยศ ไม่ทำตามสัญญา เทพอมตะจึงมอบภารกิจนี้ให้แก่สิ่งอื่น หรือผู้อื่นเป็นผู้เก็บรักษาแทน.

แคร็กเกอร์ เปโรสะเปโร (Cracker Perospero) จอมโจรสลัด ผู้เสาะแสวงหา ผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลา และเขาล่วงรู้ว่ามันอยู่ที่ใด.

 

ฉาก และ องค์ประกอบฉาก

เกาะมหัศจรรย์ เซอร์กา (Surga) เซอร์กา เป็นภาษาอินโดนีเซีย หมายถึง มหัศจรรย์ เป็นเกาะที่ไม่มีอยู่ในแผนที่โลก มันถูกซ่อนอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในทะเลจีนใต้.

 

คริสตัลแห่งกาลเวลา (Time Crystal) คือก้อนผลึกใสสีเงิน ขนาดไข่นกกะทา มันถูกฝังอยู่ในร่างของผู้พิทักษ์ เพื่อบดบังมิให้ถูกแสงอาทิตย์. คริสตัลแห่งกาลเวลา เป็นสมบัติของจักรวาล โดยมีเทพอมตะ เป็นผู้ค้นพบมัน เมื่อครั้งจักรวาลก่อเกิด หลังปฐมกาลของเหตุการณ์บิกแบงค์. คลิสตัลแห่งกาลเวลา หากนำออกมาสัมผัสกับแสงของดวงอาทิตย์ หรือดาวฤกษ์ดวงใดก็ตาม หากมีความเข้มข้นพอ จะเป็นการเปิดสวิทช์ให้กับมัน มันจะดูดทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ไว้ในก้อนผลึก หากปล่อยทิ้งไว้จักรวาลก็มีอันดับสูญ และกลับไปสู่ภาวะบิกคลันซ์ใหม่อีกรอบ. [บิกคลันซ์ (Big Crunch?) คือ เหตุการณ์ที่จักรวาล ถูกบีบอัดจนเกิดภาวะวิกฤต และระเบิดครั้งใหญ่ (Big Bang)]

คลิสตัลแห่งกาลเวลา ได้รับการปกป้องมาตลอด เมื่อมาถึงยุคของสิ่งมีชีวิตบนโลก เทพอมตะ ได้เลือกมนุษย์โลกผู้มีเชาว์ปัญญา ในการเก็บรักษามัน แต่ก็กลับส่งผลในทางตรงกันข้ามตามมา นั่นคือ มนุษย์ผู้โง่เขลาและชั่วช้า จะใช้ผลึกคลิสตัลแห่งกาลเวลา ในการข้ามเวลาไปในอดีตหรืออนาคต ผ่านมิติเวลาที่อยู่ในผลึกคริสตัล เพื่อจุดประสงค์ที่ฝืนกฎธรรมชาติและกฎแห่งกรรม โดยไม่รู้ว่านั่นคือ จุดเริ่มต้นของหายนะของจักรวาล.

คลิสตัลแห่งกาลเวลา จึงกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์เพียงชิ้นเดียว และเป็นที่ต้องการของเหล่าจอมโจรสลัด เพื่อต้องการใช้มันแสวงหาสมบัติอันมีค่า. แต่ผู้พิทักษ์คลิสตัลแห่งกาลเวลา ก็ปิดซ่อนมันไว้ จนยากที่มนุษย์ผู้ใดจะเข้าถึง กลายเป็นตำนานและคำเล่าลือ ให้นักแสวงโชคต่างค้นหามัน.

 

กด | คลิก ... ดูเรื่องอื่นๆ

 

  thinking focus new idea today
igood media
หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ
 


igood media copyright
 
SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net