ภาคที่ 3 บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก ตอนที่ 88 เบื้องหลังของหญิงสาว
คณะสำรวจจากชุมชนสันติอรุณ เดินทางมาถึงริมบึงน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เมื่อวาน. พวกเขาเสียเวลา ในการเลือกสถานที่จัดตั้งแคมป์ที่พัก 1 วัน, ได้สถานที่ที่เป็นเนินดินโล่งๆ ใกล้ต้นจามจุรีใหญ่ ซึ่งสิ้นสุดทางที่เป็นถนนดินพอดี. รถยนต์ไปต่อไม่ได้ จำเป็นต้องจอดทิ้งไว้ที่แคมป์. ทุกคนต้องช่วยกันขนสัมภาระที่จำเป็น เดินด้วยเท้า ฝ่าป่าละเมาะสลับกับต้นไม้ใหญ่เข้าไปอีก.
เมื่อเดินฝ่าละเมาะไปได้สักพัก พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่า จุดที่พวกเขายืนอยู่ มีสภาพแวดล้อมอย่างไร.
สิงห์ เพ่งสายตา มองออกไปที่เนินเขาสูง. ที่นั่นคงเป็นจุดเริ่มต้น ที่เขากับ เอื้อย โสนน้อย พากันเหยียบย่างเข้ามา สู่ดินแดนนครรัฐอันสับสนด้วยผู้คน.
แต่เมื่อมองจากจุดนี้ ดูชั่งสงบดีเหลือเกิน, สงบจากผู้คนที่มุ่งคอยทำร้ายกัน สงบจากมลพิษที่อยู่รายรอบ. เขาสังเกต เงาะดำ นั่งเพ่งมองบริเวณเกาะเล็กๆ ที่อยู่ริมฝั่งด้านตะวันตก อยู่นานเกือบ 10 นาที.
สังข์ ในร่างเงาะดำ ใคร่ครวญในใจหลายเรื่อง ครุ่นคิดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง. เขาไม่สามารถอธิบายในสิ่งที่ สิงห์ ไม่รู้. ความรู้สึกกังวลใจ ในภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น คอยรบกวนจิตใจของเขาตลอดเวลา และยังหาทางไปต่อไม่ได้.
หลังจากบังคับเครื่องบิน ยูเอฟวี II ตกลงที่บึงน้ำ เมื่อวันนี้. โชคดี ที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่ของสำคัญที่เขานำติดตัวมา มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย. หลังจากวันนั้น เขาก็กลายเป็นคนจรจัด ไร้อนาคตอยู่พักใหญ่. จนกระทั่ง คนในชุมชนสันติอรุณ ให้ที่อยู่ที่อาศัยที่พักพิง โดยไม่มีรังเกียจ. ความเมตตาของพวกเขา ทำให้ ส้งข์ มีชีวิตที่ดีตามอัตภาพ มาจนถึงวันนี้. และมีโอกาสที่จะออกตามหา ของสำคัญ.
เวลาได้ล่วงเลยมาแล้วเดือนเศษ ก็ยังไร้วี่แวว ที่จะค้นหาสิ่งนั้นให้เจอ. มันสำคัญมาก, ไม่เพียงแต่จะกู้คืนชีวิตของตัวเขาเองเท่านั้น. แต่มันคือตัวแทนของ ความจงรักภักดี และความเสียสละ ของเพื่อนอีก 2 คน ที่ยอมแลกชีวิต ให้เขาหนีออกมาจากเมืองนรก นครพันธุรัฐ ออกมาได้.
ถ้าเขาค้นหามันไม่พบมันจริงๆ เขาจะทำอย่างไร กับสภาพรูปลักษณ์ของตัวเอง. หลักฐานที่จะยืนยันตัวตนที่แท้จริงให้ เอื้อย กับ โสนน้อย รู้ว่าเขาเป็นใครก็ไม่มี. และถ้ากลับไปถึงบ้าน หรือเจอแม่เข้าจริงๆ แม่ก็อาจจำเขาไม่ได้. คิดแล้ว โอกาสชั่งเลือนรางเหลือเกิน.
คณะสำรวจได้พากันตัดต้นไม้แห้งๆ ปักเสาหมุด เพื่อทำสัญลักษณ์อาณาเขต, ปักป้ายชื่อ โครงการชีวิตใหม่ หัวใจพอเพียง ไว้เสมือนการจับจองสิทธิ์. เรื่องนี้ สิงห์ ช่วยได้มาก เพราะเป็นสิ่งที่เขาถนัดมาตั้งแต่เด็ก. หลังจากนั้น ก็แบ่งหน้าที่กัน ปักเขตที่ตั้งบ้านเรือน ถนน คูคลองส่งน้ำ สวนเกษตร นาข้าว เขตสำนักสงฆ์ และกันพื้นที่ไว้สำรับเขตโรงงาน ที่อาจจะสร้างขึ้นในอนาคต.
กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลา 5 วัน. เสบียงอาหารที่เตรียมมา ก็ใกล้หมด. พวกเขาอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 วัน คณะสำรวจจำเป็นต้องเตรียมตัว ถอนที่ตั้งแคมป์ กลับชุมชน. ระหว่างการถอนที่ตั้งแคมป์ สิงห์ ขึ้นไปทำนั่งร้านที่พัก บนต้นไม้ต้นที่สูงที่สุด ที่เขากับ เงาะดำ เคยขึ้นไปกันมาแล้ว.
เงาะดำ ขออนุญาตไปสำรวจบึงน้ำต่อ อีกที่หนึ่งตามลำพัง. เขาใช้เรือยางช่วยในการเดินทาง, จนกระทั่งถึงเกาะกลางน้ำ ตรงบริเวณ ยานยูเอฟวี II ตก. สังข์ ในร่างเงาะดำ พยายามค้นหาซากเครื่อง ที่บินตกลงมาจนพบ และลงจากเรือยาง ทบทวนเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกครั้ง. เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง เพื่อค้นหากล่องโลหะสีเงิน. มันต้องตกอยู่ที่ไหนสักแห่ง, เขาค้นหาอยู่นาน จนกระทั่งเย็น ก็ไม่พบ. ตอนนั้น รู้สึกเป็นกังวลมาก, ว้าวุ่น ท้อแท้ สิ้นหวัง เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก, ไร้ญาติ ไร้เพื่อน. สังข์จำต้องเก็บความผิดหวัง กลับไปที่ชุมชนสันติอรุณอีกครั้ง.
สังข์คิดว้าวุ่น ท่ามกลางเสียงเงียบ ของป่าบึงน้ำได้ไม่นาน ... พลัน! ภาพนิมิตก็ผุดขึ้นมาในสมองของเขา ณ จุดที่เขายืนแช่น้ำอยู่.
เขา อุทานในใจ.
สังข์ มีความรู้สึกสุขอย่างประหลาด เมื่อนึกถึงเธอ แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ว่า เพราะอะไร และทำไม.
ไกลออกไปจากบึงน้ำเจ้าพระยา ด้านทิศตะวันตก, ลึกเลยเข้าไป ถึงใจกลางมหานครรัฐ จนเกือบถึงชายขอบของมหานครรัฐ มองเห็นแม่น้ำสายใหญ่ ซึ่งชาวมหานครเรียกว่า สุวรรณนที.
ที่ริมฝั่งด้านทิศตะวันตกของ สุวรรณนที ปรากฏอาคารตึกสูงเสียดฟ้า 2 ตึก ขนาบข้าง. ตรงกลางเป็นอาคารขนาดใหญ่มาก กว้างยาว ราว 150 เมตร, มีหลังคาเป็นรูปปิรามิด 3 ชั้น ซ้อนกันจนถึงชั้นล่างสุด. ชั้นล่างสุดของอาคารรูปปิรามิด เป็นพื้นที่โล่ง มองเห็นฝูงคนเดินขวักไขว่กันไปมา.
ด้านหน้าของอาคาร เป็นเสาธงสูง, ธงชาติแห่งนครรัฐเทพนารา ปลิวสะบัดตามแรงลม. ต่ำลงครึ่งหนึ่งของเสาธง ปรากฏธงชาติของประเทศพันธมิตร นับสิบประเทศ ปลิวไสวบนยอดเสาธงของแต่ละประเทศ. ด้านหลังของเสาธงแห่งนครรัฐ เหนือช่องทางเดินเข้าอาคารรูปปิรามิด ไปตลอดแนว ปรากฏข้อความสีดำ บนแถบแผ่นป้ายโลหะสีเงิน อาคารรัฐสภา มหานครรัฐเทพนารา ( State of Metropolis Dhevanara) แลดูเด่นเป็นสง่า และข้อความนี้ ได้รับการสลักลงบนแผ่นหิน ที่ฐานของเสาธงเช่นเดียวกัน.
ที่บริเวณเขต 3 ของอาคารรัฐสภา เป็นส่วนปลายของปิรามิด หรือชั้นที่ 12 ของห้องทำงาน, มองจากด้านใน เห็นแม่น้ำสุวรรณนทีชัดเจน เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในยามค่ำคืน. บริเวณเขต 3 ทั้งหมด เป็นที่ตั้งของ สำนักการบริหารราชการ ของท่านประธานนครรัฐ. ห้องส่วนตัวของประธานนครรัฐ สังเกตได้จากป้ายข้อความ ที่ประตูทางเข้า.
ท่านเป็นผู้นำสูงสุด ของมหานครรัฐแห่งนี้. อีกห้องหนึ่ง เป็นห้องประชุมคณะมุขมนตรี. ตรงกลางคือส่วนรับรองแขกเมือง และศูนย์ควบคุมความปลอดภัย. มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาการอยู่ราว 20 คน.
วันนี้ ถือเป็นวาระสำคัญอีกวันหนึ่ง ท่านประธานนครรัฐ ได้เรียกคณะมนตรีทั้งคณะ มาร่วมประชุมปรึกษาหารือ แก้ไขสถานการณ์ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จนเกิดเหตุการณ์ประท้วงกระจายไปทั่วนครรัฐ. การประชุมดำเนินมาตั้งแต่บ่าย จนกระทั่งค่ำ จึงได้เลิกการประชุม.
ท่านประธานนครรัฐสมลักษณ์ วงศ์นารา เป็นคนท้วมร่างใหญ่. หนวดที่รับกับใบหน้าวงรีของท่าน ดูน่าเกรงขาม สำหรับผู้พบเห็น. ผมของท่านยังดำขลับ โดยไม่ผ่านการย้อม, ท่านจึงดูหนุ่มกว่าวัย ทั้งๆ ที่อายุของท่านขึ้นเลข 60 แล้ว.
พนักงานรับใช้ กล่าวกับท่านประธาน ขณะเดินไปที่ลิฟต์ส่วนตัว.
ขณะที่ มีเสียงเรียกจากโทรศัพท์ ดังขึ้น.
เสียงใสๆ จากโทรศัพท์ บ่งบอกสถานการณ์บางอย่าง ที่ทำให้้ท่านไม่แน่ใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ท่านกับลูกสาว จะดำเนินต่อไปอย่างไร.
เมื่อออกจากลิฟต์แล้ว, เนติ พนักงานรับใช้ใกล้ชิด ขับรถคันสีดำ ประจำตำแหน่งประธานนครรัฐ ผ่านหน้ารัฐสภาออกไป. ส่งท่านประธาน ถึงที่บ้านตอนพลบค่ำพอดี.
เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป ท่านรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะปกติภายในห้องนี้ จะสว่างสดใส แต่วันนี้กลับดูมืดผิดปกติ เกือบมองไม่เห็นอะไร. ลูกสาวของท่านคงทำเรื่องไม่ดีให้อีกแล้วรึนี่. ประธานสมลักษณ์ รู้ตัวดีว่า ช่วงนี้ท่านกับลูกสาว มักไม่ค่อยลงรอยกัน โดยเฉพาะเรื่องงานการเมือง, คุยกันทีไรก็เหมือนมีศึกรบกันทุกที. ท่านตั้งใจว่า วันนี้ท่านจะไม่พูดเรื่องการเมือง เด็ดขาด.
สวิตช์ไฟฟ้าถูกเปิด พร้อมกับเสียงเปิดจุกขวดไวน์ ดังขึ้น.
ความประหลาดใจถูกสะกดนิ่งชั่วครู่ จนกระทั่งเพลงจบ. ท่านประธานเป่าเทียน บนขนมเค้กก้อนกลมอันใหญ่ ที่อยู่ในมือลูกสาวของท่าน. เคกก้อนนี้ ถูกจัดตกแต่งหน้าเค้ก เป็นรูปทิวทัศน์นครเทพนาราอันสวยงาม. นี่เป็นการฉลองวันเกิด สำหรับครอบครัวจริงๆ เพราะภายในบ้าน มีท่านผู้หญิงมณฑิรา และ รจนารินี บุตรสาวของท่านประธาน, พร้อมด้วยแม่บ้าน ประไพ กับพ่อบ้าน จรัลพิทักษ์, รวมตัวท่านประธานด้วย 5 คน พอดี. ท่านเดินไปที่โต๊ะกลมกลางห้องรับรองแขก.
ท่านหญิง พูดกับสามี ขณะพากันนั่งล้อมวงกัน ที่โต๊ะกลมตัวนั้น.
รจนา ประคองห่อของขวัญด้วยสองมือ มาส่งให้พ่อ แล้วหอมแก้มพ่อ. ท่านประธานรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย.
ท่านประธาน สมลักษณ์ หยิบล็อกเก็ตเงิน รูปขนมเปียกปูนออกมาจากกล่อง แล้วเปิดดู
ล็อกเก็ตทั้งสองด้าน เป็นรูปหัวใจสีแดงสด ถูกแกะกางเปิดออก. ด้านหนึ่ง เป็นรูปถ่ายท่านประธานสมลักษณ์ อีกด้านหนึ่งเป็นรูปถ่ายของ ท่านผู้หญิงมณฑิรา. ทั้งสองด้าน เป็นตัวเลขนาฬิกาดิจิตัล แสดงตัวเลขอายุปี เดือน วัน นาที และวินาที ของผู้ที่อยู่ในรูปถ่าย.
สมลักษณ์ นั่งที่เก้าอี้ของโต๊ะกลม ตามด้วย รจนา และท่านผู้หญิงมณฑิรา. เขาตักอาหารชิมเป็นคนแรก.
พอได้ยินชื่อ สันติอรุณ, สมลักษณ์ เริ่มเคี้ยวอาหารช้าลง และมีอาการเฉื่อยชา แต่รจนายังเล่าไม่จบ.
สมลักษณ์ พูดสอดขึ้น ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว.
แต่มณฑิราห้ามช้าไป, สมลักษณ์ ลุกจากเก้าอี้ แล้วตะโกนใส่หน้าบุตรสาว ก่อนเดินหนีออกไปจากโต๊ะอาหาร.
มณฑิรา ดุลูกสาว เพื่อไม่ให้บรรยากาศขุ่นมัวไปมากกว่านี้. เธอถอนหายใจ ไม่สามารถแก้ปัญหา ให้พวกเขาลงรอยกันได้, ระหว่าง ความดื้อรั้นของลูกสาวแสนสวย กับพ่อผู้ยะโสเอาแต่ใจ.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|